คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2492

ในวันพิจารณาครั้งแรกปรากฎว่าทนายจำเลยได้ยื่นบัญชีพะยานเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ไว้ต่อศาล แต่ในสำนวนไม่ปรากฎว่า จำเลยได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้ก่อน วันนัดสืบพะยาน 3 วัน ทนายจำเลยแถลงยืนยันว่าได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้แล้ว พนักงานศาลอาจกลัดสำนวนผิดได้ ดังนี้ศาลควรไต่สวนรเื่องระบุพะยานจำเลยก่อนดำเนินการพิจารณาพิพากษาต่อไป จะตัดพะยานจำเลยเสียทีเดียวไม่ได้.

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่า ที่พิพาทเป็นของโจทก์และขับไล่จำเลย จำเลยให้การต่อสู้กรรมสิทธิในนัดพิจารณาครั้งแรก เมื่อสืบพะยานโจทก์ปากแรกทนายโจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยไม่ได้ระบุพะยานก่อนวันสืบพะยาน เป็นการฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่ง ม.๘๘ ทนายจำเลยแถลงว่าได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้ก่อนวันนัดแล้ว พนักงานศาลอาจกลัดสำนวนผิดหลงได้ และในวันเดียวกันนั้นฝ่ายจำเลยได้ยื่นบัญชีพะยานเพิ่มเติมครั้งที่ ๑ ไว้ต่อศาลด้วย เมื่อปรากฎว่าไม่มีระบุพะยานไว้ก่อนวันนัด ทนายจำเลยได้ยื่นคำร้องยืนยันขอระบุพะยานจำเลย

ศาลชั้นต้นสืบพะยานโจทก์ ๓ ปากแล้วได้สั่งว่า จำเลยไม่ได้ยื่นระบุพะยานก่อนสืบพะยาน ๓ วัน ฝ่าฝืน ป.ม.วิ.แพ่ง ม.๘๖,๘๘ ให้งดสืบพะยานจำเลย และในวันเดียวกันนั้นได้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยได้แถลงยืนยันว่าได้ยื่นบัญชีระบุพะยานไว้แล้ว และยังได้ยื่นขออ้างพะยานเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะกลัดผิดสำนวนก็ได้ ในสำนวนไม่ปรากฎว่าได้ไต่สวนหรือสอบถามหลักฐานฝ่ายจำเลยประการใด พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนเรื่องระบุพะยานจำเลย แล้ววินิจฉัยสั่งใหม่ตามรูปคดี แล้วพิจารณาพิพากษาต่อไป

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์สั่งให้ไต่สวนเรื่องระบุพะยานของจำเลยและพิพากษามาชอบแล้ว พิพากษายืน.