โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืนขนาด .๒๒ จำนวน ๑ กระบอก ซึ่งเป็นอาวุธปืนที่จำเลยได้นำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๑๘ และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตขึ้นบัญชีไว้แล้ว ตามบัญชีหมายเลข นศ.๔/๕๘๕๙ แต่เป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนท้องที่ยังไม่ได้ออกใบอนุญาตให้ผู้ใดมีและใช้ได้ตามกฎหมาย และมีกระสุนปืนขนาด .๒๒ จำนวน ๕ นัด ซึ่งอาวุธปืนและกระสุนปืนนี้ใช้ยิงได้ไว้ในความครอบครองของจำเลยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และตามวันเวลาดังกล่าว จำเลยได้บังอาจพกพาอาวุธปืนและกระสุนปืนนี้ไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗,๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๓ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙๑,๓๗๑ ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ ๑๑ พ.ศ.๒๕๑๔ ข้อ ๒ และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษฐานมีอาวุธปืน จำคุก ๑ ปี ปรับ ๒,๐๐๐ บาท และปรับฐานพกพาอาวุธปืนอีก ๑๐๐ บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑ เดือน ปรับ ๑,๐๕๐ บาท โทษจำคุกให้รอไว้มีกำหนด ๒ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับจัดการตามมาตรา ๒๙,๓๐ ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่าให้ยกฟ้องโจทก์ในข้อหาฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า จำเลยมีอาวุธปืนของกลางที่จำเลยนำไปขอรับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๑๘ มาตรา ๓ และนายทะเบียนท้องที่ได้รับคำขออนุญาตของจำเลยไว้แล้ว แต่เป็นอาวุธปืนที่นายทะเบียนยังไม่ออกใบอนุญาตให้มีและใช้ และจำเลยมีกระสุนปืนขนาด .๒๒ จำนวน ๕ นัด ที่ใช้กับอาวุธปืนของกลางไว้ในความครอบครอง ต่อมาจำเลยได้พกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางดังกล่าวไปในหมู่บ้านและทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เฉพาะอาวุธปืนพกขนาด .๒๒ หมายเลขทะเบียน นศ.๔/๕๘๕๙ นั้น จำเลยได้นำไปขอจดทะเบียนไว้แล้วภายในกำหนดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๑๘ จำเลยจึงไม่ต้องรับโทษ การที่นายทะเบียนผู้รับขึ้นทะเบียนมอบคืนอาวุธปืนให้จำเลยเก็บรักษาไว้ก่อนจนกว่าจะออกใบอนุญาตให้นั้นต้องถือว่าจำเลยเก็บรักษาอาวุธปืนนั้นไว้แทนนายทะเบียน จำเลยจึงหามีความผิดฐานมีอาวุธปืนกระบอกนั้นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่อีกไม่
ส่วนกระสุนปืนขนาด .๒๒ จำนวน ๕ นัดที่อยู่ในความครอบครองของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องนั้น จำเลยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนให้มี และไม่ปรากฏว่าจำเลยนำกระสุนปืนจำนวน ๕ นัดของกลางไปขอรับอนุญาต ทั้งจำเลยยังไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนดังกล่าวแล้ว กรณีจึงไม่ต้องพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ จำเลยจึงมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ดังที่โจทก์ฟ้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗,๗๒ พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๓ ให้ปรับ ๒๐๐ บาท จำเลยรับสารภาพ เป็นเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงปรับ ๑๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามมาตรา ๒๙,๓๐ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์