โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว ใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวของจำเลยหมดอายุตั้งแต่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๔๘๓ จำเลยละเลยไม่ต่ออายุใบสำคัญ
จำเลยให้การว่าจำเลยเป็นคนไทย และแม้จะพังว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว คดีก็หยดอายุความแล้ว
ศาลจังหวัดกะบี่ฟังว่าจำเลยเป็นคนต่างด้าว ทำผิดจริงตามฟ้อง ปรับ ๓๐๐ บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าหน้าที่จำเลยต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวใหม่ โจทก์กลับฟ้องจำเลยฐานไม่ต่ออายุใบสำคัญ เป็นความผิดคนละฐาน ลงโทษจำเลยไม่ได้พิพากษากลับยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.การทะเบียนคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๔๙๓ ซึ่ง พ.ร.บ.ฉบับนี้ยกเลิก พ.ร.บ.ฉบับเก่า ๆ เสียทั้งสิ้น เช่นนี้จำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตามกฎหมายฉบับเก่าคาบเกี่ยวตลอดมาจนถึงเวลาใช้กฎหมายฉบับใหม่ ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้วในฎีกาที่ ๑๙๖/๒๔๙๙ ว่า การที่ใบสำคัญหมดอายุก่อนวันใช้ พ.ร.บ.ฉบับ พ.ศ. ๒๔๙๓ และจำเลยไม่ได้ขอต่ออายุใบสำคัญนั้นเสียล่วงเลยมาจนใช้กฎหมายใหม่แล้ว ใบสำคัญฉบับเก่าจึงถูกยกเลิกไป จำเลยมีหน้าที่ต้องไปขอใบสำคัญประจำตัวใหม่ เมื่อจำเลยละเลย ย่อมมีผิดฐานเป็นคนต่างด้าวไม่มีใบสำคัญประจำตัวตาม พ.ร.บ. ฉบับ พ.ศ.๒๔๙๓ มาตรา ๕ แต่ฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยขาดต่ออายุใบสำคัญจึงเป็นฟ้องผิดฐาน จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์.