โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจมีอาวุธปืนสั้นทำในประเทศไทยไม่มีหมายเลขทะเบียน 1 กระบอก และมีเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง คือกระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. 1 นัด โดยมิได้รับอนุญาตไว้ในครอบครอง ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72, 55, 78 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5, 8 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 กฎกระทรวง (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2501 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 ข้อ 16 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดทุกตัวบทมาตราที่โจทก์ขอมาท้ายฟ้องแต่ให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490มาตรา 78 ซึ่งเป็นบทหนัก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก1 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 6 เดือน ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กระสุนปืนของกลางไม่ใช่เครื่องกระสุนสำหรับใช้แต่เฉพาะในการสงคราม พิพากษาแก้ เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือนและปรับ 3,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงเหลือจำคุก 3 เดือน และปรับ 1,500 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้ 2 ปี ริบของกลาง
โจทก์ฎีกา
ปัญหาจะต้องวินิจฉัยว่า กระสุนปืนของกลางใช้เฉพาะแต่ในการสงครามหรือไม่ โจทก์ฎีกาว่า จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง เห็นได้ว่าจำเลยเข้าใจคำร้องได้ดีว่ากระสุนปืนของกลางสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม ที่โจทก์บรรยายฟ้องว่า กระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. ก็คือกระสุนปืนที่ใช้กับปืนเล็กสั้น ขนาด 7.62 ม.ม. นั่นเอง ปืนเล็กสั้นขนาด 7.62 ม.ม.เป็นอาวุธปืนที่ใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม และที่บรรยายฟ้องว่ากระสุนปืนเล็กสั้นบรรจุเองก็คือกระสุนปืนที่ใช้กับอาวุธปืนซึ่งมีเครื่องกลไกที่บรรจุกระสุนเองสามารถยิงซ้ำได้ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2501) (3) ค. และ(16) ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว กฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2501) ออกตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 มาตรา 6 ซึ่งได้แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 ได้กำหนดเครื่องกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในข้อ (16) คือ "เครื่องกระสุนปืน สำหรับใช้กับสิ่งซึ่งระบุไว้ตั้งแต่ (1) ถึง (9) เว้นแต่เครื่องกระสุนชนิดและขนาดที่ใช้ได้แก่อาวุธปืนซึ่งได้รับอนุญาต" กฎกระทรวงดังกล่าว ข้อ (3) ค. กำหนดว่า"ปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 6.5 ม.ม. และ 7.62 ม.ม." ซึ่งเป็นปืนที่โจทก์ฎีกาว่าเป็นปืนที่ใช้กับกระสุนปืนของกลาง ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ปรากฏว่ากระสุนปืนของกลางเป็นแบบ 87 ปืนในกฎกระทรวง ข้อ (3) ค. เป็นแบบ 83 ต่างแบบกัน ดังนั้น จะฟังว่ากระสุนปืนเล็กสั้นแบบ 87 ขนาด 7.62 ม.ม. ของกลางสำหรับใช้กับปืนเล็กสั้นแบบ 83 ขนาด 7.62 ม.ม. ในกฎกระทรวงข้อ (3) ค. ย่อมไม่ได้ กระสุนปืนของกลางจึงไม่ใช่สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวง แม้จำเลยให้การรับสารภาพก็เป็นการเข้าใจผิด ลงโทษจำเลยฐานมีกระสุนปืนสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไม่ได้ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องฐานนี้ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน