ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแบ่งบรรจุยาเสพติดเพื่อใช้เอง ไม่ถือเป็นความผิดฐานผลิต หากไม่มีเจตนาจำหน่าย
แม้ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4 จะบัญญัติว่า การผลิตให้หมายความรวมถึงการแบ่งบรรจุหรือการรวมบรรจุด้วยก็ตาม แต่โทษฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 นั้น มาตรา 65 วรรคหนึ่ง กำหนดให้ระวางโทษจำคุกตลอดชีวิตเท่ากับโทษฐานจำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มีปริมาณคำนวณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกินหนึ่งร้อยกรัมตามมาตรา 66 วรรคหนึ่ง กำหนดโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงจำคุกตลอดชีวิตและปรับ จึงย่อมเห็นได้ว่ากฎหมายกำหนดโทษความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษตามความร้ายแรงของอันตรายที่จะเกิดขึ้นแก่สังคมจากการกระทำความผิดโดยการผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ไม่ว่าด้วยการเพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เป็นการกระทำที่จะเกิดอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรง เพราะเป็นการเพิ่มความรุนแรงของยาเสพติดให้โทษหรือเป็นการทำให้ยาเสพติดให้โทษนั้นแพร่หลายง่ายขึ้น กฎหมายจึงต้องกำหนดโทษสูง เมื่อความมุ่งหมายของกฎหมายเป็นเช่นนี้ คำว่า "การแบ่งบรรจุหรือการรวมบรรจุ" ในมาตรา 4 จึงต้องหมายถึงการแบ่งบรรจุหรือการรวมบรรจุที่เป็นอันตรายแก่สังคมอย่างร้ายแรงทำนองเดียวกับการเพาะ ปลูก ทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ เปลี่ยนรูป หรือสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ เช่น การแบ่งบรรจุหรือรวมบรรจุเพื่อจำหน่ายแก่บุคคลโดยทั่วไปเป็นต้น สำหรับคดีนี้ แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้อง ศาลก็ยังต้องฟังพยานโจทก์จนกว่าจะพอใจว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 176 เมื่อข้อเท็จจริงตามพยานหลักฐานโจทก์ในคดีนี้ไม่ได้ความว่า จำเลยแบ่งบรรจุเฮโรอีนของกลางเพื่อจำหน่ายจ่ายแจกแก่บุคคลทั่วไป นอกจากนั้นยังปรากฏว่าจำเลยต่างติดยาเสพติดให้โทษ จึงอาจเป็นดังที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยแบ่งบรรจุเฮโรอีนเพื่อความสะดวกในการใช้ของตนเอง การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 จำเลยคงมีความผิดเพียงฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เท่านั้น ซึ่งการกระทำความผิดฐานนี้เป็นการกระทำอย่างหนึ่งในความผิดฐานผลิตยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ที่โจทก์ฟ้องนั่นเอง ศาลย่อมลงโทษจำเลยในความผิดฐานนี้ได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 192 วรรคท้าย