โจทก์ฟ้องและแก้ไขฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของและเป็นผู้ขับขี่รถยนต์หมายเลขทะเบียน ก.ท.1ง-1729 จำเลยที่ 2 เป็นนิติบุคคลโดยมีจำเลยที่ 4 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและจำเลยที่ 3 เป็นหุ้นส่วน จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างหรือตัวแทนของจำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4จำเลยที่ 5 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดได้รับประกันภัยแบบประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกหมายเลขทะเบียน อ.ด. 02435 ซึ่งจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 เป็นเจ้าของผู้ครอบครองเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2521 จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์หมายเลขทะเบียนอ.ด.02435 ไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ไปตามถนนสุขสวัสดิ์(ราษฎร์บูรณะ) ไปทางดาวคะนองโดยประมาทไม่ดูทางข้างหน้าในขณะขับมาถึงสามแยกไฟแดงดาวคะนองว่ามีรถยนต์อื่นจอดรอไฟแดงอยู่ จำเลยที่ 1 ไม่หยุดรอไฟแดงรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับจึงพุ่งชนท้ายรถยนต์ 3 คันซึ่งจอดรอไฟแดงแล้วแล่นข้ามเกาะกลางถนนไปชนรถยนต์บรรทุกและรถยนต์ของโจทก์ซึ่งแล่นจากวงเวียนใหญ่ไปทางดาวคะนอง เป็นเหตุให้รถยนต์ของโจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงินทั้งสิ้น 31,693 บาทขอให้จำเลยทั้งห้าร่วมกันหรือแทนกันใช้ค่าเสียหาย 31,693 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา โจทก์ขอถอนฟ้องจำเลยที่ 1 ศาลชั้นต้นอนุญาต
จำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ให้การว่า จำเลยที่ 1 มิใช่ลูกจ้างของ จำเลยที่ 2 ที่ 3และที่ 4 เหตุเกิดขึ้นเพราะความประมาทของคนขับรถยนต์หมายเลขทะเบียนก.ท.1ง-1729 โดยขับรถยนต์มาด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไม่ชะลอความเร็วเมื่อถึงทางแยก จึงพุ่งชนรถยนต์หมายเลขทะเบียน อ.ด.02435 ซึ่งชนรถยนต์คันอื่นแล้วหักหลบมาจอดนิ่งอยู่แล้ว รถยนต์ของโจทก์เสียค่าซ่อมไม่เกิน 4,000 บาทโจทก์เสียค่ารถรับจ้างไม่เกิน 300 บาท รถยนต์ของโจทก์เป็นรถยนต์เก่าไม่เสื่อมราคาหากเสื่อมราคาไม่เกิน 500 บาท และตัดฟ้องว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่เป็นที่เข้าใจว่าจำเลยทั้งห้ามีฐานะและความรับผิดต่อกันเกี่ยวกับรถยนต์หมายเลขทะเบียนอ.ด.02435 อย่างใด ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 5 ให้การว่าได้รับประกันภัยรถยนต์จากจำเลยที่ 2 เหตุเกิดขึ้นมิใช่ความประมาทของจำเลยที่ 1 นอกจากนี้ได้ให้การทำนองเดียวกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ร่วมกันใช้ค่าเสียหาย20,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ถึงที่ 5 ฎีกาปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีตามคำร้องของจำเลยนั้น เห็นว่า ตามรายงานกระบวนพิจารณาศาลชั้นต้นฉบับลงวันที่ 20 พฤศจิกายน 2521ปรากฏเหตุผลที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีเพราะทนายจำเลยอ้างว่าป่วยโดยไม่มีใบรับรองของแพทย์มาแสดง และโจทก์แถลงคัดค้านทั้งขอให้นำแพทย์ศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางไปตรวจ แต่ปรากฏว่าเสมียนทนายผู้รับมอบฉันทะให้นำคำร้องมายื่นแทนไม่สามารถนำไปได้โดยไม่ทราบว่าบ้านทนายจำเลยอยู่ที่ไหน และฝ่ายโจทก์เตรียมพยานมาพร้อมที่จะสืบตามที่นัดไว้แล้ว การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าการขอเลื่อนคดีโดยไม่มีเหตุสมควรไม่อนุญาตให้เลื่อน จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว
ปัญหาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมเพราะไม่บรรยายสถานะและความรับผิดชอบของจำเลยแต่ละคนว่าจำเลยคนไหนมีฐานะและความรับผิดชอบต่อกันอย่างไรจะต้องร่วมรับผิดต่อกันอย่างไรให้ชัดแจ้งนั้น เห็นว่า ฟ้องโจทก์ได้แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์และคำขอบังคับ ทั้งข้ออ้างที่อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาเช่นว่านั้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172 และที่จำเลยอ้างว่าทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้นั้น ในการพิจารณาคดีส่วนแพ่งจำเลยจะอ้างว่าหลงข้อต่อสู้อย่างเช่นในคดีอาญาหาได้ไม่
พิพากษายืน