โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองกับนายไล้ได้ร่วมกันทำร้ายร่างกายนางอ่อนโดยนายไล้ใช้ไม้ตีศีรษะ และจำเลยทั้งสองเตะและตบจนนางอ่อนได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
จำเลยทั้งสองปฏิเสธ แต่เมื่อสืบพยานโจทก์ไปบ้างแล้ว จำเลยที่ 2ให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 295 พิพากษาลงโทษจำคุกคนละ 3 เดือน จำเลยที่ 2 รับสารภาพลดให้หนึ่งในสามคงจำคุก 2 เดือน
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับนายไล้ทำร้ายผู้เสียหายพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้งสองกับนายไล้เมาสุรา พากันมาเอาไม้ทุบรั้วบ้านนายตี๋ และท้าทายนายตี๋ให้ลงจากบ้านไปสู้กันนายตี๋ลงไป นางอ่อนภริยา นางสาววันดาบุตร ลงไปดึงนายตี๋ไว้เพราะเกรงว่าจะเกิดเรื่อง และนางเกิดมารดาลงไปห้ามด้วย จำเลยทั้งสองกับนายไล้พังประตูเข้ามา นายไล้เอาไม้ระแนงตีศีรษะนางอ่อนล้มลง จำเลยที่ 1ถีบนางเกิด แล้วพากันหนีไป นางอ่อนถูกตีศีรษะแตก 1 แผล แพทย์เย็บ14 เข็ม รักษาตัว 6 วัน บาดแผลจึงหาย
มีปัญหาว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกับนายไล้ใช้ไม้ระแนงตีศีรษะนางอ่อนผู้เสียหายหรือไม่ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ที่จำเลยที่ 1 กับนายไล้ช่วยกันเอาไม้ทุบรั้วบ้านนายตี๋ ท้าทายชวนวิวาทกับนายตี๋และพังประตูเข้าไปด้วยกันนั้น ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กับนายไล้มีเจตนาร่วมกันจะทำร้ายคนในบ้านนายตี๋ด้วย ไม่เฉพาะแต่จะทำร้ายนายตี๋เท่านั้น ดังนั้น การที่นายไล้ใช้ไม้ระแนงตีศีรษะนางอ่อน ก็ต้องถือว่าจำเลยที่ 1 ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยจำเลยที่ 1 จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น