ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "อย่างไรก็ดีโจทก์จำเลยได้ทำสัญญาต่อท้ายแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาเช่าซื้อตามเอกสารหมาย ล.3 ว่า หากโจทก์ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อแม้แต่งวดหนึ่งงวดใดให้ถือว่าผิดสัญญาเช่าซื้อทั้งหมด ให้จำเลยมีสิทธินำรถคืนได้ ดังนั้นแม้โจทก์จะผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อเพียงงวดเดียวก็ถือได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยย่อมมีสิทธิยึดรถคืนและเลิกสัญญาริบค่าเช่าซื้อที่ชำระแล้วได้ ไม่เป็นการฝ่าฝืนประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 574 วรรคแรก ซึ่งใช้บังคับในกรณีที่คู่สัญญามิได้มีข้อตกลงกันเป็นอย่างอื่น ทั้งบทบัญญัติมาตรา 574 วรรคสอง ที่ให้เจ้าของทรัพย์สินกลับเข้าครอบครองทรัพย์สินได้ต่อเมื่อระยะเวลาใช้เงินได้พ้นกำหนดไปอีกงวดหนึ่งดังที่โจทก์ยกขึ้นอ้างนั้น ใช้บังคับในกรณีทำผิดสัญญาเพราะไม่ใช่เงินซึ่งเป็นคราวที่สุด จะนำมาปรับกับคดีนี้ไม่ได้ การที่จำเลยยึดรถคืนโดยไม่แจ้งให้โจทก์ทราบแล้วบอกเลิกสัญญาภายหลัง จำเลยก็มีสิทธิกระทำได้ตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย ล.1 ข้อ 3(ฏ) การกระทำของจำเลยเป็นการใช้สิทธิตามสัญญาเช่าซื้อ มิได้กระทำผิดสัญญาข้อใด ถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือกระทำละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้อง"
พิพากษายืน