โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติสุรา มาตรา 5,30, 32, 58 ฐานทำสุราแช่ ทำสุรากลั่น มีสุราแช่ มีสุรากลั่นและมีภาชนะต้มกลั่นสุรา โดยไม่ได้รับอนุญาต และริบของกลาง จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานทำสุรากลั่นโดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 4 ให้ลงโทษจำคุก 2 เดือน ฐานทำสุราแช่โดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30 พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2497 มาตรา 4 ปรับ 200 บาท ฐานมีสุรากลั่นไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 32พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 6 ปรับ 1,000 บาทฐานมีสุราแช่ไว้ในความครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 32 พระราชบัญญัติสุรา(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 6 ปรับ 1,000 บาท และฐานมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในความครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติสุรา พ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30 พระราชบัญญัติสุรา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2497 มาตรา 4 จำคุก 2 เดือน เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 รวมลงโทษจำคุก 4 เดือนและปรับ 2,200 บาท กับให้บวกโทษจำคุก 6 เดือน ที่รอไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2809/2529 ของศาลชั้นต้นเข้ากับโทษจำคุกในคดีนี้ด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 58 รวมเป็นจำคุก 10 เดือนและปรับ 2,200 บาท ริบของกลางทั้งหมด จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาฐานทำสุรากลั่นโดยมิได้รับอนุญาต ลงโทษจำเลยข้อหาฐานมีสุรากลั่น ทำสุราแช่มีสุราแช่ และมีภาชนะเครื่องกลั่นสำหรับทำสุราไว้ในครอบครองเมื่อลดโทษและบวกโทษแล้วคงจำคุก 8 เดือน และปรับ 2,200 บาทไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "การที่จำเลยทำสุราแช่โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นความผิดกรรมเดียวกับการมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราแช่ที่จำเลยทำขึ้นและมีสุรากลั่นที่จำเลยมิได้เป็นผู้ทำขึ้นไว้ในครอบครอง โดยฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า พระราชบัญญัติสุราพ.ศ. 2493 มาตรา 5, 30, 32 บัญญัติความผิดและบทลงโทษฐานทำสุราโดยไม่ได้รับอนุญาตกับการมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราโดยฝ่าฝืนกฎหมายไว้คนละมาตรากัน เมื่อข้อหามีสุราแช่กับสุรากลั่นไว้ในครอบครองเป็นการกระทำคราวเดียวกัน ดังนั้นการที่จำเลยทำสุราแช่กับการที่จำเลยมีสุรากลั่นและสุราแช่ไว้ในครอบครองในคราวเดียวกันเห็นได้ชัดว่าเป็นความผิดสองกรรมเท่านั้น ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยข้อหาทำสุราแช่ มีสุราแช่และมีสุรากลั่นเป็นสามกรรมนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของจำเลยฟังขึ้นบางส่วน"
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ลงโทษจำเลยฐานทำสุราแช่ ปรับ 200 บาทกระทงหนึ่ง ฐานมีสุราแช่และมีสุรากลั่นไว้ในครอบครอง ปรับ 1,000บาท อีกกระทงหนึ่ง รวมกับโทษจำคุกฐานมีภาชนะเครื่องต้มกลั่นสุราไว้ในครอบครอง 2 เดือน เป็นจำคุก 2 เดือน และปรับ 1,200 บาทเมื่อบวกกับโทษที่ศาลรอไว้แล้ว เป็นจำคุก 8 เดือน และปรับ1,200 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 3