โจทฟ้องว่า จำเลยทั้งสองบังอาดสมคบกันไช้กำลังทำร้ายนายบาละฮิม โดยจำเลยที่ ๑ ไช้มือชกต่อยถูกท้ายทอยมีบาดเจ็บ และจำเลยที่ ๒ ไช้เท้าถีบแต่ไม่ถึงบาดเจ็บขอไห้ลงโทสตามมาตรา ๒๕๔,๓๓๘ ข้อ ๓ จำเลยทั้งสองไห้การรับสารภาพ
สาลชั้นต้นและสาลอุธรน์พิพากสาว่าจำเลยที่ ๑ มีผิดตามมาตรา ๒๕๔ จำเลยที่ ๒ ผิดตามมาตรา ๓๓๘ ข้อ ๓
โจทดีกาขอไห้ลงโทสจำเลยทั้งสองตามมาตรา ๒๕๔
สาลดีกาเห็นว่า ฟ้องโจทกล่าวความชัดว่าจำเลยสมคบกันไช้กำลังกายทำร้าย และจำเลยก็ไห้การรับว่าได้สมคบกันทำร้ายจิง การที่โจทกล่าวว่าจำเลยคนไหนทำอะไรบ้าง เปนการบันยายรายละเอียดและที่อ้างมาตรา ๓๓๘ ด้วยนั้น ไม่ทำไห้ข้อหาเรื่องสมคบเปลี่ยนแปลงไปแต่หย่างไดเมื่ออ่านฟ้องโจทแล้วก็เข้าไจได้ว่า โจทหาว่าจำเลยสมคบกันทำร้ายเขา เมื่อจำเลยไห้การรับก็ฟังได้ว่าจำเลยเปนตัวการด้วยกัน จึงพิพากสาแก้ไห้ลงโทสจำเลยที่ ๒ ตามกดหมายลักสนะอาญามาตรา ๒๕๔ ดุจจำเลยที่ ๑ และไห้กำหนดโทสหย่างเดียวกับจำเลยที่ ๑