ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่านา: การตีความลักษณะสัญญาและการมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
โจทก์ให้จำเลยทำนาในที่นาของโจทก์โดยโจทก์เป็นผู้จัดหาพันธุ์ข้าวและปุ๋ย เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่และซ่อมแซมพนังกั้นน้ำเพื่อป้องกันมิให้ข้าวในนาเสียหาย ส่วนจำเลยเป็นผู้ออกแรง ไถคราด ตกกล้า ปักดำ เก็บเกี่ยวและนวดข้าว โดยใช้อุปกรณ์การทำนาของจำเลยเมื่อทำนาได้ข้าวแล้ว ตวงเอาข้าวจำนวนหนึ่งไว้เป็นพันธุ์ข้าวในปีต่อไป ข้าวที่เหลือแบ่งกันคนละครึ่งระหว่างโจทก์จำเลย หากปีใดการทำนาไม่ได้ผลต่างไม่ต้องเสียอะไรให้แก่กัน การที่โจทก์มอบนาให้จำเลยทำและได้รับข้าวเป็นค่าตอบแทนเช่นนี้ ถือว่าเป็นการเช่าที่ดินเพื่อทำนาตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 หาใช่เป็นการจ้างจำเลยทำนาไม่
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 538 บัญญัติว่า เช่าอสังหาริมทรัพย์นั้น ถ้ามิได้มีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อฝ่ายที่ต้องรับผิดเป็นสำคัญท่านว่าจะฟ้องร้องบังคับคดีหาได้ไม่ ตามบทบัญญัตินี้หาได้บัญญัติให้การเช่าอสังหาริมทรัพย์ที่มิได้มีหลักฐานเป็นหนังสือตกเป็นโมฆะไม่ และตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 การเช่านาเพื่อทำนาไม่จำต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ ดังนั้น การเช่านาของจำเลยจากโจทก์แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ก็ไม่เป็นโมฆะ
โจทก์ให้จำเลยเช่าที่ดินเพื่อทำนาโดยไม่มีกำหนดเวลาไว้ก่อนพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 ใช้บังคับ จำเลยมีสิทธิเช่าทำนาในที่ดินดังกล่าวต่อไปอีก 6 ปี ตามมาตรา 46