โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ จำเลยทั้งสองใช้อาวุธปืนยิงทำร้ายผู้เสียหายโดยเจตนาจะฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผลเพียงแต่ทำให้ผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๘๓
จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยทำผิดวันที่ ๒๕กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ ข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยกระทำผิดวันที่ ๑๓กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาต่างกับข้อเท็จจริงในฟ้องและเป็นข้อสารสำคัญในคดี ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้ได้ลงโทษจำเลยไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๙๒พิพากษายกฟ้องปล่อยจำเลยทั้งสอง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าเหตุเกิดวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์๒๕๑๐ แต่ตามทางพิจารณาปรากฏว่าเหตุเกิดวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๐ข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาแตกต่างกับข้อเท็จจริงที่กล่าวในฟ้อง แต่วันเวลาในคำฟ้องไม่เป็นสารสำคัญของคำฟ้อง เป็นแต่เพียงรายละเอียดเพื่อให้จำเลยเข้าใจข้อหาเท่านั้น และทั้งจำเลยมิได้หลงข้อต่อสู้ จำเลยให้การรับสารภาพ หากทางพิจารณาฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามสารสำคัญของคำฟ้องแล้ว ศาลย่อมพิพากษาลงโทษจำเลยได้ ดังฎีกาที่ ๙๒๖/๒๕๑๐ แต่ศาลล่างยังมิได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงอันเป็นสารสำคัญของคำฟ้องว่าคดีพอฟังว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันพยายามฆ่าผู้เสียหายหรือไม่
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงเช่นว่านั้น แล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี.