คดีนี้  โจทก์ฟ้องขอให้พิพากษาว่าจำเลยเป็นบุคคลล้มละลายและขอให้พิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราว
ศาลชั้นต้นสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยชั่วคราว  แล้วต่อมาได้มีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยเด็ดขาด
โจทก์ยื่นคำร้องว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาและโจทก์ได้นำยึดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างไว้  ต่อมาจำเลยถูกฟ้องล้มละลาย  ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด  เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้ขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง  และได้หักค่าธรรมเนียมในการรวบรวมทรัพย์สินจากที่ขายได้ร้อยละ ๕  และคิดหักค่าธรรมเนียมในการยึดร้อยละ ๓ ครึ่ง  จากราคาที่กองหมายตีไว้  พร้อมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมร้อยละ ๓ ครึ่งส่งไปชำระให้กองหมายนั้น  ไม่เห็นพ้องด้วย  ขอให้ศาลสั่งคืน
ศาลชั้นต้นสั่งให้กองหมายคืน
หัวหน้ากองหมายอุทธรณ์
ศาลแพ่งมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์  อ้างว่าไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลในกรณีเช่นนี้
หัวหน้ากองหมายอุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับอุทธรณ์  แล้วศาลอุทธรณ์ได้วินิจฉัยว่า  ที่ศาลชั้นต้นสั่งให้คืนเงินค่าธรรมเนียมชอบแล้ว  พิพากษายืน
หัวหน้ากองหมายฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า  หัวหน้ากองหมายเป็นเจ้าพนักงานบังคบคดีที่ศาลแต่งตั้งเพื่อทำการบังคับคดีตามคำพิพากษาของศาล  ปรากฏตามพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง พ.ศ. ๒๔๗๗  มาตรา ๕ (ข)  และในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑(๑๔)  ก็บัญญัติว่า  "เจ้าพนักงานบังคับคดีหมายความว่า เจ้าพนักงานหรือพนักงานอื่นมีอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ใช้อยู่ในอันที่จะปฏิบัติตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในภาค ๔ แห่งประมวลกฎหมายนี้  เพื่อคุ้มครองสิทธิของคู่ความในระหว่างการพิจารณาหรือเพื่อบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง"  เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นเจ้าพนักงานศาลเช่นนี้  การกระทำของเจ้าพนักงานบังคับคดีก็คือ  การกระทำของศาล  แม้ค่าธรรมเนียมเมื่อยึดแล้วไม่มีการขายหรือจำหน่าย  ให้เรียกร้อยละ ๓ ครึ่ง  ได้ระบุไว้ในตาราง ๕(๓)  ว่าเป็นค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีก็ดี  แต่ก็มีหมายเหตุไว้ว่า  " ฯลฯ  ให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นผู้กำหนด  ถ้าไม่ตกลง  ก็ให้คู่ความเสนอเรื่องต่อศาลตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๒๙๖  และมาตรา ๒๙๖  ได้บัญญัติว่า  "ฯลฯ
ถ้าเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับคดีฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งลักษณะนี้  เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาและบุคคลอื่นที่มีส่วนได้เสียตามคำบังคับคดีซึ่งต้องเสียหายโดยการฝ่าฝืนนั้น  อาจขอให้ศาลสั่งยกกระบวนวิธีการบังคับทั้งปวงหรือวิธีการบังคับใด ๆ ฯลฯ  เมื่อได้ยื่นคำขอและศษลได้ไต่สวนแล้วให้มีคำสั่งอนุญาตหรือยกคำขอนั้น"  และในมาตรา ๓๐๒  ยังได้บัญญัติระบุศาลที่มีอำนาจในการบังคับคดีไว้ชัด
ตามบทบัญญัติดังกล่าวมา  เห็นได้ว่าอำนาจเกี่ยวกับการบังคับคดีนั้นเป็นอำนาจของศาล  เจ้าพนักงานบังคับคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาล  เป็นส่วนหนึ่งของศาลในการที่จะบังคับคดีเท่านั้น  ไม่มีอำนาจจะเข้ามาเป็นผู้มีส่วนได้เสียหรือเป็นคู่ความได้ด้วยประการใด ๆ
ยิ่งกว่านั้น  มาตรา ๑๖๑  ยังบัญญัติว่า  ใครมีหน้าที่เสียฤชาธรรมเนียมและยังได้ให้อำนาจศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่ง  แสดงว่าค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีนั้น  ในที่สุดก็อยู่ในอำนาจของศาลที่จะเรียกเก็บหรือไม่เรียก  เมื่อเจ้าพนักงานบังัคบคดีเป็นแต่เพียงเจ้าพนักงานของศาลในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีเท่านั้น  การที่ศาลสั่งไม่เรียกเก็บ  เจ้าพนักงานบังคับคดีก็ต้องปฏิบัติการไปตามนั้น
ศาลฎีกาเห็นว่า  เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ฎีกาคำสั่งศาลในเรื่องค่าธรรมเนียมในการบังคับคดีรายนี้ได้
ฎีกาหัวหน้ากองหมายไม่มีทางที่จะรับไว้พิจารณา  ที่ศาลอุทธรณ์รับพิจารณามานั้น  ศาลฎีกาไม่เห็นชอบด้วย  ศาลฎีกาพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในข้อที่อุทธรณ์ของหัวหน้ากองหมาย  โดยพิพากษาให้ยกฎีกาของหัวหน้ากองหมายนั้นเสีย