ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว สั่งว่าคดีมีมูลตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157, 83 ให้ประทับฟ้อง ส่วนข้อหาฐานเบิกความเท็จตาม มาตรา 177 เห็นว่าคำเบิกความของจำเลยตามที่โจทก์นำสืบ ไม่เป็นข้อสำคัญในคดี คดีไม่มีมูล ให้ยกฟ้อง ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คงมีปัญหาเฉพาะข้อหาความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177 ฐานเบิกความเท็จว่า คดีมีมูลหรือไม่ ที่โจทก์ฎีกาว่าคำเบิกความของจำเลยในคดีก่อนที่ว่า "จำเลยไม่เคยรู้จักกับโจทก์ หรือเคยมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์มาก่อน" และคำเบิกความที่ว่า "จำเลยทั้งสองไม่เคยจับกุม คุมขังโจทก์ในข้อหามีกัญชา" เป็นข้อสำคัญในคดีที่ศาลอาญาลงโทษในข้อหามีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองตามคดีหมายเลขดำที่ 12978/2522 คดีหมายเลขแดงที่ 24267/2522 เห็นว่าข้อหาที่โจทก์ถูกพนักงานอัยการฟ้องฐานกระทำผิดต่อพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ ประเด็นอยู่ที่จำเลยครอบครองเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษโดยมิได้รับอนุญาตจริงหรือไม่ คำเบิกความของจำเลยที่ว่า "จำเลยไม่เคยรู้จักกับโจทก์หรือมีสาเหตุโกรธเคืองกับโจทก์"และที่ว่า "จำเลยทั้งสองไม่เคยจับกุม คุมขังโจทก์ในข้อหามีกัญชา" เป็นเพียงข้อความให้ศาลทราบว่าโจทก์จำเลยเคยรู้จักกันหรือไม่ จำเลยเคยจับกุม คุมขังโจทก์ในข้อหามีกัญชาหรือไม่ เพื่อประกอบเป็นเหตุผลควรเชื่อคำเบิกความของพยานหรือไม่ หาเป็นข้อสำคัญในเรื่องโจทก์ต้องหาว่าครอบครองเฮโรอีนโดยไม่รับอนุญาตไม่"
พิพากษายืน