โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินแก่โจทก์จำนวน 453,277.53 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ในต้นเงินดังกล่าวนับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การและแก้ไขคำให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดีผู้บริโภคพิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา โดยศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภคอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีผู้บริโภควินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ฎีกาว่า ฟ้องโจทก์เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ. 798/2561 ของศาลชั้นต้นหรือไม่ โจทก์ฟ้องคดีก่อนตามคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ. 798/2561 ของศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีคำขอใช้บริการสินเชื่อบุคคล สปีดี้โลนกับโจทก์ โดยโจทก์ได้อนุมัติสินเชื่อดังกล่าวและโอนเงินกู้เข้าบัญชีของจำเลยแล้ว และจำเลยได้ทำสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 716,976.77 บาท พร้อมดอกเบี้ย ประเด็นตามคำฟ้องคดีก่อนเป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระหนี้ตามสัญญากู้เงินโดยอาศัยคำขอใช้บริการสินเชื่อบุคคล สปีดี้โลน และสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้เป็นหลักฐานการฟ้องร้อง การที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องโดยวินิจฉัยว่าจำเลยไม่ได้ลงลายมือชื่อในแบบคำขอสินเชื่อและเอกสารประกอบคำขอ และหนังสือสัญญาปรับปรุงโครงสร้างหนี้และเอกสารประกอบ โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยชำระหนี้ตามฟ้องแก่โจทก์ เท่ากับศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องเพราะจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์ตามฟ้อง ส่วนฟ้องโจทก์คดีนี้ โจทก์ยอมรับผลของคำพิพากษาคดีก่อนว่าจำเลยไม่ได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์ และกล่าวอ้างว่าการที่โจทก์ได้โอนเงิน 600,000 บาท ไปเข้าบัญชีเงินฝากธนาคาร ก. จำกัด ของจำเลย โดยโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องคืนเงินแก่โจทก์ เป็นการกล่าวอ้างว่าจำเลยได้รับเงินจากโจทก์ไปโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ จำเลยต้องคืนเงินแก่โจทก์ในฐานลาภมิควรได้อันเป็นการฟ้องโดยอาศัยผลของคำพิพากษาคดีก่อนมาเป็นมูลฟ้องร้องคดีนี้ ดังนี้ แม้เงินที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยรับผิดคดีนี้เป็นเงินจำนวนเดียวกันกับจำนวนเงินตามสัญญากู้เงินตามฟ้องคดีก่อนก็ตาม ก็ถือว่าเป็นการฟ้องโดยอาศัยสภาพแห่งข้อหาที่แตกต่างกัน คดีทั้งสองสำนวนจึงเป็นคนละประเด็นกัน ฟ้องโจทก์คดีนี้จึงไม่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาว่าฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ.798/2561 ของศาลชั้นต้นนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
สำหรับปัญหาที่ว่าจำเลยต้องรับผิดคืนเงินแก่โจทก์ตามฟ้องหรือไม่ ศาลล่างทั้งสองยังมิได้วินิจฉัยเพราะได้วินิจฉัยตัดฟ้องโจทก์ในประเด็นเรื่องอำนาจฟ้องเสียก่อน ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวไปโดยไม่จำต้องย้อนสำนวนไปให้ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัยก่อน โดยโจทก์อ้างว่าการที่โจทก์โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของจำเลยโดยโจทก์จำเลยไม่มีนิติสัมพันธ์ต่อกัน จำเลยจึงต้องคืนเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ เห็นว่า ข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ.798/2561 ของศาลชั้นต้น มีผลผูกพันโจทก์และจำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคหนึ่ง ประกอบพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีผู้บริโภค พ.ศ. 2551 มาตรา 7 ว่าบัญชีเงินฝากของจำเลยที่โจทก์โอนเงินกู้เข้าบัญชีนั้น เป็นบัญชีที่จำเลยเปิดให้บิดานำไปใช้ในกิจการของบริษัท ถ. ขณะมีการโอนเงินกู้นั้น จำเลยและบิดาได้ออกจากการเป็นกรรมการบริษัทดังกล่าวโดยจำเลยและบิดาไม่ได้เข้าไปมีส่วนในการดำเนินกิจการของบริษัทดังกล่าว เมื่อประกอบกับข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยไม่ได้ลงลายมือชื่อในแบบคำขอสินเชื่อ เอกสารประกอบคำขอสินเชื่อ จึงไม่ใช่ผู้กู้เงินจากโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามีผู้ปลอมลายมือชื่อจำเลยในเอกสารดังกล่าวเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอกู้เงินโจทก์โดยใช้บัญชีเงินฝากของจำเลยรับโอนเงินที่กู้จากโจทก์ โดยมีบุคคลอื่นใช้บัญชีของจำเลยในการรับโอนเงินและถอนเงินออกไปใช้ดังจะเห็นได้จากรายการเคลื่อนไหวทางบัญชีเงินฝากของจำเลย มีแต่รายการถอนหรือโอนเงินโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก เชื่อว่าจำเลยไม่มีส่วนทำรายการดังกล่าว ทั้งเป็นความผิดของโจทก์เองที่ไม่ตรวจสอบให้รอบคอบชัดเจนถึงตัวบุคคลผู้กู้เงินว่าเป็นบุคคลที่แท้จริงที่โจทก์ประสงค์ให้กู้หรือไม่ เป็นเหตุให้มีการปลอมเอกสารโดยใช้หลักฐานของจำเลย ประกอบกับตามพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือได้รับประโยชน์จากเงินกู้นั้น จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยได้รับเงินตามฟ้องจากโจทก์ จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดคืนเงินตามฟ้องให้แก่โจทก์ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นฎีกาให้เป็นพับ