โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นนายจ้างได้เลิกจ้างโจทก์ผู้เป็นลูกจ้างประจำโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าและไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยและค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ป่วยจนไม่สามารถปฏิบัติงานได้ จำเลยจึงมีสิทธิเลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย ก่อนเลิกจ้างจำเลยได้ให้โอกาสโจทก์ลาพักรักษาตัวเป็นเวลา ๒ ปี หากโจทก์มีอาการไม่ดีขึ้น จำเลยจะเลิกสัญญาถือได้ว่าโจทก์ทราบถึงการบอกกล่าวล่วงหน้าแล้วว่าจำเลยจะเลิกจ้างและโจทก์มิได้ยื่นความจำนงขอลาหยุดพักผ่อนประจำปี จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างที่มิได้หยุดพักผ่อนประจำปี
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่าค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า การที่โจทก์ป่วย มีสุขภาพร่างกายไม่สมบูรณ์ มีอาการคล้ายโรคอัมพาต ลุกเดินนั่งและหยิบจับสิ่งของไม่สะดวกมาประมาณ ๒ ปี และไม่สามารถปฏิบัติงานในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ทำได้นั้น แม้ถือได้ว่าโจทก์หย่อนความสามารถจำเลยมีสิทธิถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งตามสัญญาลงวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๐๔ ข้อ ๔ ที่โจทก์ทำไว้กับจำเลยและเป็นกรณีพนักงานเจ็บป่วยไม่อาจปฏิบัติหน้าที่การงานของตนได้โดยสม่ำเสมอ อันจำเลยมีอำนาจให้โจทก์ออกจากงานได้ตามข้อ ๖.๑ แห่งระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ ๑๒๑ ว่าด้วยการแต่งตั้งและการถอนจากตำแหน่งพนักงานธนาคารออมสิน ลงวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๑๗ ก็ตาม แต่การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ออกจากตำแหน่งในกรณีนี้ ถือไม่ได้ว่าเป็นการเลิกจ้างในกรณีฝ่าฝืนข้อบังคับหรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงานหรือคำสั่งของนายจ้าง ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ ข้อ ๔๗(๓) เพราะเป็นเรื่องโจทก์เจ็บป่วย จำเลยจึงต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ว่า ก่อนจำเลยเลิกจ้างโจทก์จำเลยได้ให้โอกาสแก่โจทก์ที่จะลาพักรักษาตัวให้หายเป็นปกติ และโจทก์ได้ยื่นความจำนงที่จะลาพักรักษาตัวเป็นเวลาถึง ๒ ปี ถือได้ว่าจำเลยได้บอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ก่อนเลิกจ้างแล้วจำเลยจึงไม่ต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เห็นว่า การที่จำเลยให้โอกาสแก่โจทก์ที่จะลาพักรักษาตัวได้ เป็นเรื่องประสงค์ให้โจทก์หายเป็นปกติเพื่อจะได้ทำงานต่อไป มิใช่เป็นการบอกกล่าวล่วงหน้าเพื่อเลิกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕๘๒ จำเลยเลิกจ้างโดยมิได้บอกกล่าวล่วงหน้าจึงต้องจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยได้จ่ายเงินเดือนเต็มแก่โจทก์ทุกเดือนซึ่งรวมถึงค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปีด้วยแล้ว ทั้งโจทก์ไม่ได้ยื่นความจำนงต่อจำเลยที่จะหยุดพักผ่อนประจำปีจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างในวันหยุดพักผ่อนประจำปี เห็นว่า เมื่อโจทก์ยังมิได้หยุดพักผ่อนประจำปี เงินเดือนที่จำเลยจ่ายแก่โจทก์ตามปกติจึงหาได้รวมค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีแล้วไม่ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ ข้อ ๔๕ กำหนดว่า "ถ้านายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างประจำโดยลูกจ้างมิได้มีความผิดตามข้อ ๔๗ ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างแก่ลูกจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามข้อ ๑๐ และข้อ ๓๒ ด้วย" มิได้มีเงื่อนไขกำหนดให้ลูกจ้างต้องแจ้งความจำนงขอหยุดพักผ่อนประจำปีก่อนแต่อย่างใด เมื่อได้ความว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์มิได้มีความผิดตามข้อ ๔๗ แห่งประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าว และโจทก์ยังมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีซึ่งยังมิได้ใช้จำนวน ๒๐ วัน จำเลยก็ต้องจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีดังกล่าวแก่โจทก์
พิพากษายืน