โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจพาอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอกไปในหมู่บ้านโดยเปิดเผยและโดยไม่มีเหตุอันสมควร และจำเลยบังอาจใช้อาวุธปืนดังกล่าวยิงนายคำภา จันทร์มี โดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย แต่เผอิญกระสุนปืนที่ยิงไม่ถูกร่างกายนางคำภา จันทร์มี นางคำภา จันทร์มี จึงไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ในวันเดียวกันนั้นเองพลตำรวจวิสุทธิ์ คอมแพงจันทร์กับพวกได้เข้าจับกุมจำเลยตามอำนาจหน้าที่ จำเลยได้บังอาจใช้อาวุธปืนดังกล่าวแล้วยิงต่อสู้ขัดขวางพลตำรวจวิสุทธิ์ คอมแพงจันทร์ โดยมีเจตนาฆ่าให้ตาย แต่ปืนที่จำเลยยิงไม่ลั่น จึงไม่ถึงแก่ความตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 138, 140, 288, 289, 371, 80, 90, 91, 33 ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ให้สั่งริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพว่า ได้พาอาวุธปืนไปในหมู่บ้านโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันสมควร ข้อหานอกจากนั้นให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 371 ลดรับสารภาพกึ่งหนึ่งตามมาตรา 78 แล้วคงปรับ 40 บาทกับมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปีมาตรา 138 วรรคสอง, 140 วรรคแรกและวรรคสาม จำคุก 2 เดือน รวมเป็นโทษจำคุก 10 ปี 2 เดือน ปรับ 40 บาท ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยมิได้มีเจตนาฆ่านางคำภา จันทร์มี และมิได้ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการจับกุม
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า ในข้อหาความผิดฐานพยายามฆ่านางคำภา จันทร์มี พยานหลักฐานของโจทก์ยังเป็นที่สงสัย ฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิดฐานนี้ ส่วนข้อหาความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการจับกุมฟังได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดจริง แต่เห็นว่าเมื่อการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามมาตรา 140 แล้วก็ไม่ต้องปรับบทตามมาตรา 138 วรรคสองอีก พิพากษาแก้เป็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 140 จำคุก2 เดือน ข้อหาพยายามฆ่าตามมาตรา 288, 80 ให้ยกฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา ขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่านางคำภา จันทร์มี ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้เป็นยุติว่า ผู้เสียหายเคยเลี้ยงดูจำเลยมาแต่จำเลยยังเป็นเด็ก และเป็นผู้ที่จำเลยรักใคร่นับถือ ไม่ได้พบกันมานานและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน จำเลยมีอาการมึนเมาสุรา เมื่อจำเลยพบผู้เสียหายจำเลยรู้สึกอยากจะหยอกเล่นและทำให้ผู้เสียหายตกใจ จำเลยจึงเข้าไปยืนใกล้ยกปืนจ้องพร้อมกับขู่ว่านิ่ง พอผู้เสียหายตื่น ปืนของจำเลยลั่นไปทางผู้เสียหายนอน ขณะผู้เสียหายนอนตะแคงหันมาทางจำเลย โดยจำเลยยิงให้สูงกว่าระดับตัวไม่ให้ถูก กระสุนปืนถูกฝาเรือนเหนือไหล่ซ้ายวัดได้ 7 นิ้วฟุตดังนี้ เห็นว่าจำเลยตั้งใจจะหยอกล้อผู้เสียหายซึ่งเป็นผู้ที่จำเลยรักใคร่นับถือเพราะเลี้ยงจำเลยมาแต่เด็กและไม่ได้พบกันนานแล้วให้ตกใจเล่น ด้วยความคึกคะนองประกอบด้วยความมึนเมาสุรา หาใช่เพราะตั้งใจจะฆ่าแต่อย่างใดไม่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องในข้อหานี้ชอบแล้ว ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน