คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2719/2519

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา และให้โจทก์นำส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่าโจทก์ไม่มานำส่งหมายภายในกำหนดที่ศาลสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า โจทก์ทิ้งฟ้องให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ โจทก์ยื่นคำร้องขอส่งหมายให้จำเลย โดยอ้างว่าโจทก์ป่วยและทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ต่างจังหวัดจึงมานำส่งหมายไม่ได้ภายในเวลากำหนดของศาล ดังนี้ ศาลชั้นต้นควรที่จะต้องดำเนินการไต่สวนคำร้องของโจทก์เพื่อฟังให้สิ้นกระแสความเสียก่อน การด่วนยกคำร้องของโจทก์เสียโดยยังมิได้ดำเนินการไต่สวนย่อมเป็นการไม่ชอบ

กรณีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ศาลชั้นต้นสั่งจำหน่ายคดีโดยถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องโจทก์ยื่นคำแถลงว่าไม่เจตนาทิ้งฟ้อง ขอนำส่งหมายเรียกใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งว่าได้สั่งจำหน่ายคดีไปแล้ว ไม่อาจดำเนินคดีให้ได้ตามคำแถลงของโจทก์

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำสั่งศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนพยานของคู่ความในประเด็นที่โจทก์กล่าวอ้างตามคำแถลงของโจทก์

จำเลยฎีกาขอให้บังคับตามคำสั่งศาลชั้นต้น

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งให้ประทับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณา และให้โจทก์นำส่งหมายเรียกแก่จำเลยภายใน 7 วัน ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลรายงานว่าโจทก์ไม่มานำส่งหมายภายในกำหนดที่ศาลสั่ง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง ให้จำหน่ายคดีจากสารบบความ โจทก์ยื่นคำแถลงขอส่งหมายให้จำเลยอ้างว่าไม่นำส่งหมายภายในกำหนด เนื่องจากโจทก์ป่วยและทนายโจทก์ไปว่าความต่างจังหวัด ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นคำร้องว่าโจทก์ป่วยและทนายโจทก์ติดว่าความอยู่ต่างจังหวัด จึงมานำส่งหมายไม่ได้ภายในเวลากำหนของศาล ศาลชั้นต้นควรไต่สวนคำร้องของโจทก์เพื่อฟังให้สิ้นกระแสความเสียก่อน

พิพากษายืน