คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2911/2530

ใบรับบิลและใบส่งของระบุว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 โดยมีป. และ ส. ลงนามเป็นผู้รับบิล และผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่เมื่อบุคคลทั้งสองเป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของห้างจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะ ป. ยังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามของห้างจำเลยที่ 1 ด้วย เช่นนี้เป็นพฤติการณ์ถือได้ว่า ห้างจำเลยที่ 1 โดยจำเลยที่ 2หุ้นส่วนผู้จัดการได้เชิด ป. ให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 เมื่อ ป. สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์แทนจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชดใช้ราคาให้โจทก์.

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 2 เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างจำเลยที่ 1 จำเลยซื้อเชื่ออะไหล่รถแทรคเตอร์ไปจากโจทก์หลายครั้งเป็นเงินรวม 71,059 บาท โจทก์ส่งมอบสินค้าให้จำเลยแล้ว จำเลยไม่ชำระราคาภายในกำหนด ขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ย

จำเลยทั้งสองให้การว่ามิได้สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ตามฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินตามฟ้องให้โจทก์

จำเลยที่ 1 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ใบรับบิลและใบส่งสินค้าทุกฉบับระบุชัดว่าส่งของให้ห้างจำเลยที่ 1 นอกจากนี้เอกสารดังกล่าวยังมีนางปราณี ไกรสุวรรณสาร และนางสาวสุทธิพร ไกรสุวรรณสาร ลงนามเป็นผู้รับบิลและผู้รับสินค้าเป็นส่วนใหญ่ เมื่อบุคคลทั้งสองนี้เป็นบุตรสาวของจำเลยที่ 2 และเป็นหุ้นส่วนของจำเลยที่ 1 โดยเฉพาะนางปราณียังได้รับมอบหมายจากจำเลยที่ 2 ให้เป็นผู้สั่งของในนามจำเลยที่ 1 ด้วย ตามพฤติการณ์ฟังได้ว่าห้างจำเลยที่1 โดยจำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการ ได้เชิดนางปราณีให้เป็นตัวแทนของจำเลยที่ 1 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 ได้เมื่อนางปราณีสั่งซื้อสินค้าแทนจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 1 ได้รับสินค้าตามที่สั่งซื้อจากโจทก์แล้ว จำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาสินค้าให้โจทก์

พิพากษายืน.