โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้มีดโต้ฟันนายหลู่ถูกที่ศีรษะถึงแก่ความตายโดยมีเจตนาฆ่า ขอให้ลงโทษตามมาตรา ๒๘๘ และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การรับว่า ฟันผู้ตายจริงเพราะผู้ตายบุกรุกขึ้นมาชกต่อยจำเลยบนเรือน
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา ๒๘๘ จำคุก ๑๕ ปี ลดโทษ ๑ ใน ๓ ตามมาตรา ๗๘ คงจำคุก ๑๐ ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยผิด ตามมาตรา ๒๙๐ ประกอบด้วยมาตรา ๗๒ จำคุก ๓ ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า มูลเหตุที่จำเลยจะฟันผู้ตายก็เพราะผู้ตายเมาสุรา มาชวนจำเลยถึงบ้านเพื่อจะให้ไปดื่มสุราด้วยกัน ครั้นจำเลยไม่ไปและหลบขึ้นเสียบนเรือน ผู้ตายยังตามขึ้นมารังควานโดยกระชากแขนอีก เมื่อจำเลยขัดขืน ผู้ตายก็เข้าปลุกปล้ำจนจำเลยทนไม่ได้ จึงฟันเอา เช่นนี้เห็นว่า จำเลยกระทำโดยบันดาลโทสะเพราะถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมตามมาตรา ๗๒ แห่งประมวลกฎหมายอาญา แต่พิเคราะห์ตามขนาดความกว้างยาวของมีด แม้จำเลยฟันทีเดียว แต่ฟันตรงกลางศีรษะเป็นบาดแผลจดเหนือหูขวายาว ๔ นิ้วครึ่ง กว้าง ๒ นิ้ว ลึกถึงกระโหลกศีรษะทะลุมันสมอง ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะพิษบาดแผลในวันรุ่งขึ้น จำเลยต้องมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาตามมาตรา ๒๘๘ พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ และ ๗๒ จำคุก ๕ ปี ริบของกลาง