ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุก 1 ปี คำขออื่นให้ยก ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คดีมีปัญหาในชั้นนี้แต่เพียงว่าจำเลยกระทำความผิดฐานรับของโจรหรือไม่
ตามพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบว่า เสื้อตัวที่จำเลยสวมใส่ขณะที่ถูกจับกุมนั้น ที่หน้าอกเสื้อด้านขวาได้ปักเป็นภาษาอังกฤษ(อักษรโรมัน) ว่า เอ็ม พี ที เอ เอ็น เค ยู เอ็มปรากฏตามบัญชีของกลางเอกสารหมาย จ.2 และผู้เสียหายเบิกความว่าเสื้อตัวนั้นได้ปักชื่อผู้เสียหายไว้ที่หน้าอกเสื้อด้านขวา เพื่อให้ได้ความชัดซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าว ศาลฎีกาจึงเห็นเป็นการสมควรที่จะวินิจฉัยที่ว่าตัวอักษรโรมันซึ่งปักไว้ที่หน้าอกเสื้อนั้นจะเป็นชื่อของผู้เสียหายดังที่ผู้เสียหายเบิกความหรือไม่ เพราะการเขียนชื่อบุคคลเป็นภาษาอังกฤษนั้นเป็นเรื่องที่ศาลสามารถที่จะอ่านรู้เองได้ผู้เสียหายมีชื่อว่ามนพันธ์ ตั้งคำ เมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวอักษรเอ็ม พี ซึ่งปักไว้ที่อกเสื้อนั้นจึงแสดงให้เห็นได้ว่าเป็นอักษรย่อของคำว่ามนพันธ์ ซึ่งเป็นชื่อของผู้เสียหายส่วนตัวอักษรที่ปักว่า ที เอ เอ็น เค ยู เอ็ม นั้น ก็อ่านได้ว่าตั้งคำ ซึ่งเป็นชื่อสกุลของผู้เสียหาย จึงฟังได้ว่าเสื้อตัวดังกล่าวเป็นเสื้อของผู้เสียหาย การที่จำเลยสวมเสื้อของผู้เสียหายในเวลาใกล้ชิดกับเวลาที่เสื้อของผู้เสียหายถูกคนร้ายลักเอาไปบ้านจำเลยก็อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทรัพย์ของผู้เสียหายถูกลักไป คำให้การของจำเลยก็ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสุจริต โดยจำเลยให้การในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาแตกต่างกันไปหมด กล่าวคือ ในชั้นสอบสวนจำเลยให้การว่าไม่ทราบว่าเสื้อตัวที่จำเลยสวมนั้นเป็นของใครในชั้นพิจารณาจำเลยกลับเบิกความว่าเสื้อที่จำเลยสวมใส่นั้นเป็นเสื้อของเพื่อนนางสาวอารีย์ซึ่งเป็นน้องสาวของจำเลยและจำเลยสวมใส่ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2525 ซึ่งเป็นไปไม่ได้เพราะข้อเท็จจริงฟังได้แล้วว่า เสื้อตัวที่จำเลยสวมใส่นั้นเป็นเสื้อของผู้เสียหายซึ่งถูกคนร้ายลักเอาไปในวันที่จำเลยสวมเสื้อนั้น จำเลยจึงสวมใส่มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2525ไม่ได้ จากพยานหลักฐานดังกล่าว แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยได้รับเสื้อของผู้เสียหายซึ่งเป็นทรัพย์อันได้มาโดยการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานรับของโจร คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น"
พิพากษากลับ ให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น