โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 31, 61, 70, 75, 76 และ 78 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4, 108, 110, 115 และ 117 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และ 33 ให้สินค้าที่รูปการ์ตูนโดราเอมอนของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์รวม 37 รายการ จำนวน 1,616 ชิ้น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และสั่งให้จ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ กับริบสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้ารูปการ์ตูนโดราเอมอนของกลางจำนวน 128 ชิ้น ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 110 (1) ประกอบมาตรา 108 ลงโทษปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า "...เห็นว่า พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 มาตรา 3 บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พุทธศักราช 2474 ทั้งฉบับและพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 3 ก็บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 ทั้งฉบับ แต่ยังคงมีบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 มาตรา 50 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ที่ให้งานอันมีลิขสิทธิ์อยู่ในวันที่พระราชบัญญัติฉบับใหม่มีผลบังคับได้รับความคุ้มครองเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ต่อไปตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ เมื่อตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่นั้นได้กล่าวถึงทั้งเรื่องการคุ้มครองลิขสิทธิ์ อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ การละเมิดลิขสิทธิ์และข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นหมวดหมู่ในลักษณะเรียงลำดับต่อเนื่องกันไปเพื่อให้บทบัญญัติดังกล่าวทั้งหมดใช้บังคับแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ดังนั้นประโยคที่ว่าให้ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้จึงหมายถึงให้นำบทบัญญัติในหมวดหมู่ต่างๆ ดังกล่าวทั้งหมดของพระราชบัญญัติฉบับใหม่ไปใช้บังคับแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้วตามพระราชบัญญัติฉบับเก่า หรืองานที่เพิ่งมีลิขสิทธิ์หลังจากพระราชบัญญัติฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ไม่ใช่แยกบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติฉบับเดิมซึ่งถูกยกเลิกทั้งฉบับแล้วบางส่วนและตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่บางส่วน ซึ่งไม่น่าจะตรงตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายกรณีจึงไม่อาจตีความไปได้ว่าความคุ้มครองสิทธิ์นั้น หมายความเพียงว่างานอันมีลิขสิทธิ์นั้นยังได้รับความคุ้มครองต่อไปเฉพาะตามบทบัญญัติเรื่องการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ แต่มิได้มีผลให้ขยายอายุแห่งการคุ้มครองตามบทบัญญัติเรื่องอายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ไปด้วยดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัย นอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงความในวรรคสองของมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 และมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ที่บัญญัติโดยใช้ถ้อยคำทำนองเดียวกับความในวรรคหนึ่งก็ยิ่งชัดเจนว่างานที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ใช้บังคับ แม้ไม่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเดิม เช่น งานแพร่เสียงแพร่ภาพ เมื่อมามีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ก็ได้รับความคุ้มครองไปตามบทบัญญัติตามกฎหมายใหม่ทั้งฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอายุการคุ้มครอง 50 ปี นับแต่มีการโฆษณางานครั้งแรก ข้อความที่ว่าความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ จึงย่อมหมายถึงได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติในส่วนต่างๆ ของกฎหมายใหม่รวมถึงในส่วนที่ว่าด้วยอายุการคุ้มครองด้วย การตีความว่างานศิลปกรรมภาพตัวการ์ตูนอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเดิมซึ่งมีอายุการคุ้มครอง 30 ปี มีอายุแห่งความคุ้มครองขยายออกไปเป็น 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรกดังกล่าวโดยผลของพระราชบัญญัติฉบับใหม่ นอกจากจะเป็นการตีความไปตามบริบทของกฎหมายทั้งฉบับแล้ว ยังสอดคล้องกับหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับอายุแห่งความคุ้มครองลิขสิทธิ์ในอนุสัญญาเบอร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรมที่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกหลังจากมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพุทธศักราช 2474 แต่ก่อนที่จะมีการตราพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 ด้วย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ต่อไปว่า จำเลยกระทำผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ...เห็นว่า คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายตามฟ้องโจทก์ เมื่อขณะเกิดเหตุในวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ยังอยู่ในกำหนดเวลาอายุแห่งความคุ้มครองลิขสิทธิ์ 50 ปี การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ในงานศิลปกรรมประเภทจิตรกรรมภาพการ์ตูนโดราเอมอนของผู้เสียหายตามฟ้องอีกกระทงหนึ่ง"
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเสนอขาย มีไว้เพื่อขายซึ่งงานที่ได้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 27, 31, 61, 70, 75, 76 และ 78 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 4, 108, 110, 115 และ 117 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 และ 33 ให้สินค้าที่รูปการ์ตูนโดราเอมอนของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์รวม 37 รายการ จำนวน 1,616 ชิ้น ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และสั่งให้จ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ กับริบสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้ารูปการ์ตูนโดราเอมอนของกลางจำนวสน 128 ชิ้น ด้วย
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2534 มาตรา 110 (1) ประกอบมาตรา 108 ลงโทษปรับ 10,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงปรับ 5,000 บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ริบของกลาง คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า "...เห็นว่า พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 มาตรา 3 บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรม พุทธศักราช 2474 ทั้งฉบับและพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 3 ก็บัญญัติให้ยกเลิกพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 ทั้งฉบับ แต่ยังคงมีบทเฉพาะกาลของพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 มาตรา 50 วรรคหนึ่ง และพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 78 วรรคหนึ่ง ที่ให้งานอันมีลิขสิทธิ์อยู่ในวันที่พระราชบัญญัติฉบับใหม่มีผลบังคับได้รับความคุ้มครองเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ต่อไปตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ เมื่อตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่นั้นได้กล่าวถึงทั้งเรื่องการคุ้มครองลิขสิทธิ์ อายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ การละเมิดลิขสิทธิ์และข้อยกเว้นการละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นหมวดหมู่ในลักษณะเรียงลำดับต่อเนื่องกันไปเพื่อให้บทบัญญัติดังกล่าวทั้งหมดใช้บังคับแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ดังนั้นประโยคที่ว่าให้ได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้จึงหมายถึงให้นำบทบัญญัติในหมวดหมู่ต่างๆ ดังกล่าวทั้งหมดของพระราชบัญญัติฉบับใหม่ไปใช้บังคับแก่งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่ ไม่ว่าจะเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์อยู่แล้วตามพระราชบัญญัติฉบับเก่า หรืองานที่เพิ่งมีลิขสิทธิ์หลังจากพระราชบัญญัติฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ไม่ใช่แยกบังคับใช้ตามพระราชบัญญัติฉบับเดิมซึ่งถูกยกเลิกทั้งฉบับแล้วบางส่วนและตามพระราชบัญญัติฉบับใหม่บางส่วน ซึ่งไม่น่าจะตรงตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายกรณีจึงไม่อาจตีความไปได้ว่าความคุ้มครองสิทธิ์นั้น หมายความเพียงว่างานอันมีลิขสิทธิ์นั้นยังได้รับความคุ้มครองต่อไปเฉพาะตามบทบัญญัติเรื่องการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ แต่มิได้มีผลให้ขยายอายุแห่งการคุ้มครองตามบทบัญญัติเรื่องอายุการคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ไปด้วยดังที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางวินิจฉัย นอกจากนี้หากพิเคราะห์ถึงความในวรรคสองของมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 และมาตรา 78 แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ที่บัญญัติโดยใช้ถ้อยคำทำนองเดียวกับความในวรรคหนึ่งก็ยิ่งชัดเจนว่างานที่ได้จัดทำขึ้นก่อนวันที่พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ใช้บังคับ แม้ไม่มีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเดิม เช่น งานแพร่เสียงแพร่ภาพ เมื่อมามีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายใหม่ก็ได้รับความคุ้มครองไปตามบทบัญญัติตามกฎหมายใหม่ทั้งฉบับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องอายุการคุ้มครอง 50 ปี นับแต่มีการโฆษณางานครั้งแรก ข้อความที่ว่าความคุ้มครองตามพระราชบัญญัตินี้ จึงย่อมหมายถึงได้รับความคุ้มครองตามบทบัญญัติในส่วนต่างๆ ของกฎหมายใหม่รวมถึงในส่วนที่ว่าด้วยอายุการคุ้มครองด้วย การตีความว่างานศิลปกรรมภาพตัวการ์ตูนอันมีลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเดิมซึ่งมีอายุการคุ้มครอง 30 ปี มีอายุแห่งความคุ้มครองขยายออกไปเป็น 50 ปี นับแต่มีการโฆษณาเป็นครั้งแรกดังกล่าวโดยผลของพระราชบัญญัติฉบับใหม่ นอกจากจะเป็นการตีความไปตามบริบทของกฎหมายทั้งฉบับแล้ว ยังสอดคล้องกับหลักการเบื้องต้นเกี่ยวกับอายุแห่งความคุ้มครองลิขสิทธิ์ในอนุสัญญาเบอร์นว่าด้วยการคุ้มครองงานวรรณกรรมและศิลปกรรมที่ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกหลังจากมีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองวรรณกรรมและศิลปกรรมพุทธศักราช 2474 แต่ก่อนที่จะมีการตราพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2521 ด้วย
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ต่อไปว่า จำเลยกระทำผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ตามฟ้องโจทก์หรือไม่ ...เห็นว่า คดีนี้จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง จึงรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำต่องานอันมีลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายตามฟ้องโจทก์ เมื่อขณะเกิดเหตุในวันที่ 25 ธันวาคม 2550 ยังอยู่ในกำหนดเวลาอายุแห่งความคุ้มครองลิขสิทธิ์ 50 ปี การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานละเมิดลิขสิทธิ์ในงานศิลปกรรมประเภทจิตรกรรมภาพการ์ตูนโดราเอมอนของผู้เสียหายตามฟ้องอีกกระทงหนึ่ง"
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานเสนอขาย มีไว้เพื่อขายซึ่งงานที่ได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อการค้าตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 30 (1) และ 70 วรรคสอง อีกกระทงหนึ่ง ลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 50,000 บาท ลดโทษกึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน 15 วัน ปรับ 25,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจำเลยกลับตัวต่อไป โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ให้สินค้าที่มีรูปการ์ตูนโดราเอมอน 37 รายการ จำนวน 1,616 ชิ้น ของกลางที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ จ่ายเงินค่าปรับที่ได้ชำระตามคำพิพากษาฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง