ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน แม้มีปริมาณน้อยกว่าเกณฑ์ยกเว้น แต่ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย จึงเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
การมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายไปไม่เกิน 0.500 กรัม ที่จะไม่เป็นความผิดตามกฎหมายนั้นผู้กระทำต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครอง หรือใช้ประโยชน์ซึ่งเมทแอมเฟตามีนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 5 มาตรา 21 มาตรา 30 และมาตรา 62 แห่ง พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 แต่ตามข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตให้ครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งเมทแอมเฟตามีนและไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับใบอนุญาตให้ขายเมทแอมเฟตามีนตามมาตรา 13 ทวิ วรรคหนึ่ง การที่จำเลยมีไว้เพื่อขายและขายเมทแอมเฟตามีนมีน้ำหนัก 0.45 กรัม จึงไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะไม่เป็นความผิดตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2538 เวลากลางวัน จำเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อขายและขาย เมทแอมเฟตามีนมิใช่มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองซึ่งเป็นความผิดคนละฐาน แม้ต่อมารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขระบุให้เมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก็ตาม จำเลยจะนำ พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง และมาตรา 67 ซึ่งเป็นบทบัญญัติเรื่องการมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 มาใช้บังคับไม่ได้ ทั้งโทษฐานมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ก็ไม่เป็นคุณแก่จำเลย กรณีของจำเลยจึงต้องปรับบทตาม พ.ร.บ. วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท