โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจเข้าวิวาทต่อสู้กันไม่ถึงบาดเจ็บขอให้ลงโทษ
ทางพิจารณาได้ความว่านายสำราญข้างเถื่อนจำเลยฝ่ายหนึ่งได้โต้เถียงกับจำเลยอีก ๒ คนเรื่องจอดเรือ  แล้วเข้าไปต่อยถูกนายสำราญเดชกุญชรหนึ่งที  นายสำราญเดชกุญชรก็ต่อยตอบไปหนึ่งที  นายสำราญช้างเถื่อนผละออกตรงไปที่นายใฮ้จำเลยๆ แก้เชื่อกผูกไม้ข้างเรือออกตีนายสำราญช้างเถื่อนไปหนึ่งทีแล้วนายสำราญเดชกุญชรผลักนายสำราญช้างเถื่อนตกน้ำไป  ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทุกคนผิดฐานวิวาทต่อสู้กันในที่สาธารณสถาน
นายสำราญช้างเถื่อนจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ากรณีไม่ใช่เป็นเรื่องวิวาทต่อสู้กัน  ข้อเท็จจริงตามทางพิจารณาจึงต่างกับฟ้อง  ต้องวินิจฉัยให้ยกฟ้องและทั้งนี้เป็นเหตุในลักษณคดี  แม้จำเลยอีกสองคนจะมิได้อุทธรณ์ขึ้นมา  ก็ให้ปล่อยไปด้วย
โจทก์ฎีกา  ศาลฎีกาเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความว่านายสำราญช้างเถื่อนเข้าไปทำร้ายนายสำราญเดชกุญชรก่อนและจะเข้าไปทำร้าย นายใฮ้อีก ที่นายสำราญเดชกุญชรและนายใฮ้ต่อยและตีไปบ้างก็โดยเจตนาจะป้องกันตน มิใช่เป็นกรณีวิวาทตามฟ้อง  จึงพิพากษายืน