คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3144/2531

จำเลยยื่นคำให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ฟ้องผิดศาล การที่โจทก์ทราบภายหลังว่าฟ้องคดีผิดไปจากศาลที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาและขอถอนคำฟ้อง นับว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้เป็นไปโดยถูกต้องและในกรณีฟ้องผิดศาลนั้นแม้ศาลชั้นต้นจะพิจารณาไปโดยผิดหลงแล้วมีคำพิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาล โจทก์อาจฟ้องจำเลยใหม่ยังศาลที่คดีนั้นอยู่ในเขตอำนาจได้อีก และแม้กำหนดอายุความในเรื่องนี้จะสิ้นไปแล้วในระหว่างพิจารณากฎหมายก็ยังขยายอายุความออกไปให้อีกระยะหนึ่งด้วยตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 บัญญัติไว้ การอนุญาตให้ถอนคำฟ้องจึงไม่ทำให้จำเลยเสียหาย

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน จำเลยให้การว่าโจทก์ฟ้องผิดศาล ในวันนัดชี้สองสถาน โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนคำฟ้องเพื่อไปยื่นฟ้องที่ศาลอื่น จำเลยคัดค้าน ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์ถอนคำฟ้องได้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอถอนคำฟ้องภายหลังจำเลยยื่นคำให้การและก่อนที่ศาลชั้นต้นจะพิจารณาสั่งคำร้องก็ได้ฟังจำเลยก่อนแล้วโดยจำเลยยื่นคำแถลงคัดค้านการขอถอนคำฟ้องของโจทก์ ซึ่งเป็นไปตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175กำหนดไว้ และจำเลยก็ได้ยื่นคำให้การตัดฟ้องว่าโจทก์ฟ้องคดีที่ศาลจังหวัดนนทบุรีไม่ได้เท่ากับจำเลยมีความประสงค์ไม่ให้ศาลจังหวัดนนทบุรีพิจารณาคดีนี้ การที่โจทก์ทราบภายหลังว่าฟ้องคดีผิดไปจากศาลที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาเช่าซื้อตามเอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 3 ข้อ 14 และขอถอนคำฟ้องนับว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้เป็นไปโดยถูกต้อง และในกรณีฟ้องผิดศาลนั้นแม้ศาลชั้นต้นจะพิจารณาไปโดยผิดหลงแล้วมีคำพิพากษายกฟ้องเพราะคดีไม่อยู่ในเขตอำนาจศาล โจทก์ก็อาจฟ้องจำเลยใหม่ยังศาลที่คดีนั้นอยู่ในเขตอำนาจได้อีก และแม้กำหนดอายุความในเรื่องนี้จะสิ้นไปแล้วในระหว่างพิจารณา กฎหมายก็ยังขยายอายุความออกไปให้อีกระยะหนึ่งด้วยตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 176 บัญญัติไว้ ดังนั้น การอนุญาตให้ถอนคำฟ้อง จึงไม่ทำให้จำเลยต้องเสียหายแต่ประการใด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นนั้นชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น"

พิพากษายืน