คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า นางเชื้อได้เสียเป็นภริยานายเสริฐ สุขเกษม เมื่อ ๒ ปีเศษมานี้ โดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส อยู่กินกัน
ที่บ้านนางแก้วมารดานายเสริฐโดยเปิดเผยระหว่างที่นางเชื้อตั้งครรภ์ นายเสริฐถูกรถยนต์ทับตายในเดือนต่อมานาง
เชื้อคลอดบุตร คือโจทก์ในคดีนี้ จำเลยยื่นคำร้องต่อหอทะเบียนที่ดินรับมรดกนายเสริฐ โจทก์คัดค้าน จำเลยไม่ยอม จึง
ขอให้ศาลแสดงว่า
๑. โจทก์เป็นบุตรนายเสริฐ สุขเกษม โดยพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่นายเสริฐ บิดาได้รับรองแล้ว ให้ถือว่าเป็นผู้สืบสันดานของ
นายเสริฐต่อไป
๒. ห้ามจำเลยเกี่ยวข้องในกองมรดกของนายเสริฐ
๓. ขอให้แสดงว่า โจทก์เป็นผู้ควรได้รับมรดกทั้งหมดของนายเสริฐ
จำเลยต่อสู้ว่า นางเชื้อไม่ใช่ภริยาของนายเสริฐ ฯลฯ ไม่มีสิทธิฟ้อง
ศาลชั้นต้น พิจารณาแล้วพิพากษา โจทก์เป็นบุตรของนายเสริฐโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยไม่มีสิทธิเกี่ยวข้องในทรัพย์
มรดกกับให้แบ่งที่ดินส่วนของมารดานายเสริฐ ให้โจทก์หนึ่งส่วน ฯลฯ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า นางเชื้อกับนายเสริฐไม่ได้จะทะเบียนสมรส การสมรสของนางเชื้อและนายเสริฐจึงไม่สมบูรณ์ จะเรียกว่า
เป็นสามีภริยากันไม่ได้ โจทก์จึงมิใช่บุตรอันชอบด้วยกฎหมายของนายเสริฐ และเมื่อโจทก์เกิดนั้นนายเสริฐตายแล้ว
จึงไม่มีทางที่จะรับรองบุตรนอกกฎหมายตามมาตรา ๑๖๒๗ ืได้ เพราะนายเสริฐไม่มีโอกาศจะรับรองโจทก์ได้ ฉะนั้นโจทก์
จึงไม่ใช่บุตรที่บิดาได้รับรองแล้ว และไม่ได้รับประโยชน์ตามมาตรา ๑๖๒๗ การที่ไปลงทะเบียนเกิดว่าเป็นบุตรนายเสริฐ
โดยนายเสริฐไม่รู้เห็นด้วยเพราะตายไปแล้ว หาเป็นการรับรองของนายเสร็บ ไม่.
จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง.