คดีสืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กกล้าง 12 เมตร ยาว 12 เมตร ที่จำเลยก่อสร้างดัดแปลงต่อเติมอาคารตึกแถวเลขที่ 214 หมู่ที่ 10 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยไม่ได้รับอนุญาต และหากจำเลยไม่รื้อถอนอาคารต่อเติมดังกล่าวให้โจทก์เป็นผู้รื้อถอนได้เองโดยจำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 400 บาท จำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา โจทก์ขอให้บังคับคดีและเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2543 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ปิดประกาศกำหนดการรื้อถอนในวันที่ 14 ธันวาคม 2543 ครั้นครบกำหนดโจทก์เลื่อนการรื้อถอนไปเป็นวันที่ 31 มกราคม 2544 เนื่องจากจำเลยจะขอจัดการรื้อถอนเอง
ต่อมาวันที่ 29 มกราคม 2544 จำเลยยื่นคำร้องว่า จำเลยได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารส่วนที่จำเลยต่อเติมตามคำฟ้องและคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีงดทำการรื้อถอนตามหมายบังคับคดี
ศาลชั้นต้นนัดพร้อม จำเลยแถลงว่า จำเลยได้ดำเนินการรื้อถอนอาคารส่วนต่อเติมตามคำพิพากษาแล้ว ส่วนดาดฟ้าของอาคารชั้นที่ 2 เป็นเพียงการติดตั้งลูกกรงล้อมรอบเท่านั้น โจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีแถลงว่า จำเลยยังไม่รื้อถอนอาคารส่วนที่จำเลยต่อเติมตามคำพิพากษาภาพถ่ายหมาย ร.1 ซึ่งยังมีสภาพเช่นเดียวกับขณะมีคำพิพากษา ศาลชั้นต้นพิเคราะห์คำแถลงของคู่ความแล้วเห็นว่า จำเลยยังไม่ได้รื้อถอนอาคารส่วนที่ต่อเติมดัดแปลงตามคำพิพากษา จึงให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ฎีกาของจำเลยที่ว่า จำเลยได้รื้อถอนอาคารส่วนที่ต่อเติมชั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว ศาลชั้นต้นชอบที่จะไต่สวนข้อเท็จจริงให้ได้ความชัดเจนเสียก่อนว่าจำเลยได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาดังกล่าวครบถ้วนแล้วหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏตามภาพถ่ายหมาย ร.1 ที่โจทก์ส่งต่อศาลชั้นต้นประกอบกับคำแถลงของคู่ความและเจ้าพนักงานบังคับคดีซึ่งมีหน้าที่เพื่อบังคับตามคำพิพากษาเป็นอันเพียงพอที่จะรับฟังได้แล้วว่าจำเลยยังมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาล ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะงดไต่สวนพยานแล้วมีคำสั่งให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาให้ถูกต้องครบถ้วนได้โดยหาจำต้องไต่สวนข้อเท็จจริงอันใดอีกไม่ การที่ศาลชั้นต้นงดการไต่สวนข้อเท็จจริงดังกล่าวจึงชอบแล้ว ที่จำเลยฎีกาต่อไปว่า หากจำเลยจะต้องรื้อพื้นดาดฟ้าตามคำสั่งศาลชั้นต้นจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่จำเลยอย่างมาก เพราะทำให้โครงสร้างเดิมได้รับความกระทบกระเทือนนั้น เห็นว่า เมื่อจำเลยมีหน้าที่จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดที่ให้จำเลยรื้อถอนอาคารส่วนที่จำเลยต่อเติมโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย จำเลยก็ย่อมไม่อาจยกเอาความเสียหายที่จะต้องได้รับมาปฏิเสธความรับผิดของจำเลยในอันที่จะต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนตามคำสั่งของศาลชั้นต้นให้บังคับคดีแก่จำเลยต่อไปชอบแล้ว"
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.