โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267,83, 91, 92, 32, 33 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 และเพิ่มโทษจำเลยด้วย
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 137, 267, 268 จำเลยกระทำผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานและให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จเป็นความผิดกรรมเดียว ให้ลงโทษตามมาตรา 267 ซึ่งเป็นบทหนัก แต่เนื่องจากจำเลยกระทำผิด 3 กระทง ลงโทษจำคุกกระทงละ 1 ปี เป็นจำคุก 2 ปีสำหรับความผิดฐานใช้เอกสารเท็จและแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จ ลงโทษตามมาตรา 268 จำคุก 1 ปี รวมจำคุก 3 ปีเพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุก 4 ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "ที่ขอให้ลงโทษจำเลยฐานแจ้งให้เจ้าพนักงาน คือนางสาวสุอารีย์ จงเอื้อกลาง เจ้าหน้าที่ธุรการประจำสำนักงานศึกษาธิการอำเภอบัวใหญ่ และนายสมาน ศิริวัฒน์ศึกษาธิการอำเภอบัวใหญ่ จดข้อความอันเป็นเท็จนั้น เห็นว่านางสาวอารีย์กับนายสมานรับแจ้งและจดข้อความอันเป็นเท็จดังกล่าวในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่ของคุรุสภา แม้บุคคลทั้งสองจะเป็นข้าราชการแต่ก็ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267 การกระทำในส่วนนี้ของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามบทกฎหมายดังกล่าว ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยมิได้ฎีกาขึ้นมาด้วย ศาลฎีกาเห็นสมควรวินิจฉัยให้ถูกต้อง
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดในฟ้องข้อ (ก) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 267 กระทงหนึ่ง และในฟ้องข้อ (ข)ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 อีกกระทงหนึ่ง เป็นความผิด 2 กระทงแต่ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 วรรคสอง กระทงเดียว ให้จำคุก 1 ปี เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 รวมเป็นจำคุก 1 ปี 4 เดือน คำขออื่นให้ยกเสีย".