ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องจำกัดเฉพาะการโต้แย้งสิทธิโดยตรง การแจ้งเท็จเจ้าพนักงานที่ดินไม่ทำให้สิทธิผู้เสียหายเปลี่ยนแปลง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่ดินของจำเลยด้านทิศตะวันตกติดที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยได้ขอออกโฉนดที่ดินโดยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานที่ดินว่าที่ดินของจำเลยด้านทิศตะวันตกติดทางสาธารณประโยชน์ เป็นเหตุให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินให้แก่จำเลยและระบุว่าทางด้านทิศตะวันตกติดทางสาธารณประโยชน์ทำให้โจทก์เสียหายไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินได้ แต่โจทก์มิได้บรรยายให้ปรากฏว่าเพราะเหตุใดการกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นเหตุให้โจทก์ไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินได้ อีกทั้งการกระทำของจำเลยดังกล่าวก็เป็นเรื่องการขอออกโฉนดที่ดินในส่วนที่ดินของจำเลยโดยเฉพาะ แม้การแจ้งข้อความของจำเลยต่อเจ้าพนักงานที่ดินจะเป็นการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับอาณาเขตที่ดินแต่ก็ไม่มีผลโดยตรงต่อเนื้อที่ดินของโจทก์ กล่าวคือ มิได้ขอออกโฉนดที่ดินรุกล้ำทับที่ดินของโจทก์หรือกระทำการอันมีลักษณะเป็นการรบกวนการครอบครองหรือแย่งสิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์ สิทธิครอบครองที่ดินของโจทก์มีอยู่อย่างไรก็ยังคงมีอยู่เช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง และเป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องไปพิสูจน์สิทธิครอบครองต่อเจ้าพนักงานที่ดินในการขอออกโฉนดที่ดินของโจทก์ หากโจทก์ไม่สามารถขอออกโฉนดที่ดินได้ก็เป็นเรื่องที่จะต้องไปว่ากล่าวกับเจ้าพนักงานที่ดินไม่เกี่ยวกับจำเลย การกระทำของจำเลยตามที่โจทก์บรรยายมาในคำฟ้องถือไม่ได้ว่าเป็นการโต้แย้งสิทธิหรือหน้าที่ของโจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 55 โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับคำฟ้องของโจทก์ เพราะเห็นว่าการที่โจทก์จะออกโฉนดที่ดินได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการทางเจ้าพนักงานที่ดินคืนค่าขึ้นศาลทั้งหมดให้โจทก์นั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะคำสั่งของศาลดังกล่าวเท่ากับเป็นการวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลย มีผลเป็นการวินิจฉัยเนื้อหาแห่งคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 131 (2) กรณีมิใช่เรื่องสั่งรับหรือไม่รับคำคู่ความตาม ป.วิ.พ. มาตรา 18 จึงไม่มีเหตุที่จะคืนค่าธรรมเนียมศาลแก่โจทก์ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 151 วรรคหนึ่ง