คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันปลอมเงินตรา มีเงินตราปลอม และมีเครื่องมือสำหรับปลอมเงินตรา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า เหรียญกษาปณ์ของกลางเป็นเหรียญปลอมขึ้นเพื่อใช้อย่างเงินตราของรัฐบาล ของกลางอย่างอื่นก็เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการปลอมเหรียญกษาปณ์นั้น โดยจำเลยทั้งสองร่วมกันทำเหรียญกษาปณ์ปลอม และมีเหรียญกษาปณ์ปลอมไว้เพื่อนำออกใช้กับมีเครื่องมือปลอมเหรียญกษาปณ์จริงดังฟ้อง พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 240, 244, 246, 83 ให้รวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยคนละ 10 ปี คำรับของจำเลยในชั้นสอบสวนมีประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษลง 1 ใน 3 ตามมาตรา 78 คงให้จำคุกจำเลยคนละ 6 ปี 8 เดือน และให้ริบของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้น แต่เห็นว่าศาลชั้นต้นให้รวมกระทงลงโทษจำเลยเช่นนั้น ขัอต่อมาตรา 248 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นแต่เพียงให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 240 บทเดียวนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยทั้งสองฎีกา แต่แล้วจำเลยที่ 1 ยื่นคำร้องขอถอน ศาลฎีกาสั่งอนุญาต
ศาลฎีกาเห็นว่า ที่จำเลยฎีกาว่าเหรียญกษาปณ์ของกลางไม่เหมือนกับของรัฐบาล โดยแม่พิมพ์ของกลางมีลวดลายไม่เหมือนกับของรัฐบาลเพียงแต่คล้าย ๆ กันเท่านั้น จึงควรต้องฟังว่า เหรียญกษาปณ์ของกลางนำออกใช้ให้เป็นอย่างเงินตราแท้จริงไม่ได้ และไม่เป็นการปลอมเงินตรา ควรปรับเป็นความผิดได้ตามมาตรา 249 แห่งประมวลกฎหมายอาญาซึ่งมีอัตราโทษเบาแก่จำเลยนั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องกับศาลอุทธรณ์ว่ากรณีตามมาตรา 249 เป็นเรื่องที่กระทำบัตรหรือโลหะธาตุอย่างใดให้มีลักษณะและขนาดคล้ายคลึงกับเงินตราขึ้นเท่านั้น โดยผู้กระทำไม่เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง
แต่ในคดีนี้ต้องฟังว่า ผู้กระทำคือจำเลย เจตนาทำปลอมให้เป็นเงินตราเพื่อนำออกลวงใช้เป็นเงินตราที่แท้จริง การที่นายบ่ายเจ้าหน้าที่กองกษาปณ์ กรมธนารักษ์ พยานโจทก์เบิกความตอนหนึ่งว่าแม่พิมพ์ของกลางมีลักษณะและลวดลายไม่เหมือนของทางราชการ เป็นแต่เพียงคล้าย ๆ กันเท่านั้น ก็ไม่หมายความว่าแม่พิมพ์ของกลางใช้ปลอมเงินตราไม่ได้ โดยปรากฏตามคำเบิกความของเจ้าหน้าที่ผู้นี้ต่อไปว่า เพียงแต่เอาตะไบตบแต่งส่วนที่ไม่เรียบร้อยของเหรียญที่เทออกจากแม่พิมพ์เสียบ้างเท่านั้น ก็อาจนำออกจำหน่ายใช้ได้ทีเดียว ดังนี้กรณีจึงปรับด้วย มาตรา 249 ไม่ได้ ต้องปรับด้วยมาตรา 240 ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ลงโทษจำเลยมานั้นชอบด้วยรูปเรื่องและบทกฎหมายแล้ว
จึงพิพากษายืน ให้ยกฎีกาจำเลยที่ 2