โจทก์ฟ้องโดยได้รับอนุญาตให้ดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในศาลชั้นต้นศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง วันที่ 14 ธันวาคม 2524 โจทก์อุทธรณ์ และนายย้งบุตรเขยยื่นคำร้อง 3 ฉบับ ฉบับแรกขอรับมรดกความแทนโจทก์ที่ถึงแก่กรรมศาลชั้นต้นสั่งนัดไต่สวน ฉบับที่ 2 ขอดำเนินคดีชั้นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาศาลสั่งให้รอไว้สั่งเมื่อไต่สวนแล้วฉบับที่ 3 ขอขยายเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมใช้แทนและค่าทนายความแทนจำเลยตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นออกไป 30 วัน ศาลสั่งว่าสำเนาให้จำเลย วันที่ 17 ธันวาคม 2524 นายย้งยื่นคำร้องขอให้ศาลยกเว้นเงินค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์และค่าธรรมเนียมค่าทนายความให้แทนจำเลยในศาลชั้นต้น ศาลสั่งว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้น ให้ยกคำร้อง วันที่ 22 มกราคม2525 นางสมยื่นคำร้องขอรับมรดกความแทนโจทก์ผู้เป็นมารดา ขอยื่นอุทธรณ์อย่างคนอนาถาและข้อยกเว้นค่าธรรมเนียมใช้แทนจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ศาลสั่งให้รอไว้สั่งเมื่อเสร็จการำต่สวนขอรับมรดก วันที่ 1 มิถุนายน2525 นายย้งกับพวกยื่นแถลงว่า ตามที่ศาลนัดไต่สวนคำร้องขอรับมรดกความเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2525 ผูร้องกับทนายมาศาลตามนัด แต่ศาลปิดทำการเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ ขอให้นัดไต่สวนต่อไปศาลชั้นต้นสั่งว่า ให้ผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมที่ค้างชำระมาชำระก่อนจึงค่อยกำหนดไต่สวน ส่วนนางสมยื่นคำร้องขอรับมรดกความ ไม่ได้รับอนุญาตจากสามี ให้นำหนังสือยินยอมของสามีมายื่นศาลก่อน แล้วค่อยดำเนินการ นายย้ง นางสม ผู้ร้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะของผู้ร้องทั้งสองต่อไป จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "ข้อเท็จจริงได้ความว่าภายหลังที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้ว ศาลชั้นต้นได้ดำเนินกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะของผู้ร้องทั้งสองมาตามลำดับดังที่ยกขึ้นกล่าวไว้ข้างต้นแล้ว คดีมีปัญหาตามฎีกาของจำเลยที่ 1 และที่ 2 ว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่สั่งในคำแถลงลงวันที่ 1 มิถุนายน 2525 ของผู้ร้องทั้งสองให้ผู้ร้อง (นายย้ง) นำค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องชำระมาชำระก่อนจึงค่อยกำหนดนัดไต่สวน ส่วนนางสมผู้ร้องปรากฏว่าเป็นหญิงมีสามียื่นคำร้องขอรับมรดกความ ไม่ได้รับอนุญาตจากสามี ให้นางสมนำหนังสือยินยอมอนุญาตของสามีมายื่นศาลก่อนแล้วก่อนดำเนินการนั้นเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้วหรือไม่
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องทั้งสองยื่นคำร้องขอเขาเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ พร้อมกับยื่นคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ซึ่งศาลชั้นต้นจะต้องดำเนินการไต่สวนคำร้องของผู้ร้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 155 และ 156 เสียก่อน หากศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ผู้ร้องฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาได้ ผู้ร้องก็จะได้รับยกเว้นไม่ต้องนำเงินค่าธรรมเนียมมาวางศาลเพื่อใช้แทนจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 157 ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมที่จะต้องชำระเกี่ยวกับคำฟ้องอุทธรณ์ที่ผู้ร้องยื่นต่อศาลนั้น เมื่อคดียังอยู่ในระหว่างไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ และคำร้องขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของผู้ร้อง ผู้ร้องก็ยังไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องชำระค่าฤชาธรรมเนียมเกี่ยวกับคำฟ้องอุทธรณ์ในชั้นนี้ ดังนั้นที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งในระหว่างที่ยังมิได้ดำเนินการไต่สวนคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะ และคำรับขอฟ้องอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของผู้ร้องให้นายย้งผู้ร้องนำค่าฤชาธรรมเนียมที่ต้องชำระมาก่อนจึงค่อยกำหนดนัดไต่สวนนั้น ไม่ว่าค่าฤชาธรรมเนียมที่ศาลสั่งดังกล่าวจะหมายถึงค่าธรรมเนียมและค่าทนายความที่ต้องวางศาลเพื่อใช้แทนจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น หรือหมายถึงค่าฤชาธรรมเนียมเกี่ยวกับฟ้องอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวก็ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ผู้มรณะของนางสมผู้ร้องนั้น เป็นเรื่องที่นางสมอ้างว่าตนเป็นบุตรของโจทก์ผู้มรณะ และขอเข้าเป็นคู่ความแทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 42 ซึ่งคดีที่โจทก์ฟ้องร้องจำเลยดังกล่าวถึงหากในที่สุดโจทก์จะชนะคดี ทรัพย์สินที่อาจได้มาตามคำพิพากษาซึ่งจะตกได้แก่ผู้ร้องก็จะเป็นสินส่วนตัวของผู้ร้อง มิใช่เป็นสินสมรสระหว่างผู้ร้องกับสามี ดังนั้นการยื่นคำร้องขอเข้าเป็นคู่ความแทนที่โจทก์ในคดีนี้ของนางสมผู้ร้อง จึงมิใช่เป็นกรณีที่ผู้ร้องไปจัดการสินสมรสอันจะต้องจัดการร่วมกับสามี หรือต้องได้รับความยินยอมจากสามีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1476, 1477 และมาตรา 1478 การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้นางสมผู้ร้องนำหนังสือยินยอมอนุญาตของสามีมายื่นศาลก่อน แล้วค่อยดำเนินการอันหมายถึงแล้วศาลจึงจะกำหนดนัดไต่สวนต่อไปนั้น จึงเป็นคำสั่งที่ ไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีมาชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาจำเลยที่ 1 ที่ 2 ฟังไม่ขึ้น"
พิพากษายืน ผู้ร้องทั้งสองแก้ฎีกา จึงไม่กำหนดค่าทนายความให้