คดีนี้สืบเนื่องจากเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ทำการยึดทรัพย์สินของนายมนัสจำเลยที่ 4 แต่เจ้าพนักงานศาลส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ไม่ได้ โจทก์จึงยื่นคำแถลงว่า จำเลยที่ 4 ได้ถูกโจทก์ฟ้องอีกคดีหนึ่งเป็นคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 109/2521 ซึ่งภรรยาและบุตรของจำเลยที่ 4 แถลงต่อศาลว่า จำเลยที่ 4 ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่ประเทศสหรัฐอเมริกาบ้าง ไปอยู่ประเทศใต้หวันบ้าง เป็นการไม่แน่นอน ศาลจึงเชื่อว่าจำเลยที่ 4 มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย จึงสั่งให้ส่งหมายเรียกและสำเนาฟ้องในคดีดังกล่าวให้จำเลยที่ 4 โดยประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ ฉะนั้น ในคดีนี้โจทก์จึงขอให้ศาลสั่งอนุญาตให้ทางหนังสือและประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์เช่นเดียวกัน ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตและให้ทำการส่งประกาศแจ้งการยึดทรัพย์สินและกำหนดวันขายทอดตลาดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ทราบไปลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์เสียงราษฎ์มีกำหนด7 วันแล้ว
นายนครทนายความจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ไว้ก่อน อ้างว่าการส่งหนังสือแจ้งการยึดและประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ที่ศาลสั่งให้ส่งโดยวิธีประกาศหนังสือพิมพ์นั้น ได้กระทำเมื่อภายหลังที่จำเลยที่ 4 มิได้อยู่ในประเทศไทย เพราะเดินทางไปอยู่ต่างประเทศแล้ว จะถือว่าได้มีการส่งคำคู่ความหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่ให้ขายทอดตลาดตามที่ได้ประกาศทางหนังสือพิมพ์ไว้เดิมได้
ทนายจำเลยที่ 4 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน
ทนายจำเลยที่ 4 ฎีกา
วินิจฉัยว่าข้อเท็จจริงได้ความว่า หลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์ที่ดินของจำเลยที่ 4 ไว้แล้ว ได้มีหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 เพื่อทราบ แต่เจ้าพนักงานศาลรายงานว่าได้นำหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ไปส่งที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แล้ว ไม่พบจำเลยที่ 4 และไม่มีผู้ใดรับแทน จึงส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ไม่ได้ดังปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2521 โจทก์จึงยื่นคำแถลงขอให้ส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 อีกครั้งหากส่งไม่ได้หรือไม่มีผู้ใดรับแทนก็ขอให้ศาลสั่งให้ปิดหมายไว้ที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ส่งใหม่โดยวิธีธรรมดาอีกครั้ง ถ้าไม่มีผู้ใดรับโดยชอบให้ปิดหมายได้เจ้าพนักงานศาลนำหนังสือแจ้งการยึดไปส่งที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 อีก แล้วรายงานว่าพบผู้มีชื่อที่บ้านเรือนของจำเลยที่ 4 แจ้งว่าจำเลยที่ 4 ไม่อยู่โดยจำเลยที่ 4 ได้ย้ายออกจากบ้านไปนานแล้ว ปรากฏตามรายงานเจ้าหน้าที่ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2521 ศาลชั้นต้นสั่งให้โจทก์ทราบและแสดงหลักฐานที่อยู่ของจำเลยที่ 4 โจทก์จึงยื่นคำแถลงขอให้ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ ได้ความดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่า การส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดให้จำเลยที่ 4 ไม่สามารถจะทำได้โดยวิธีส่งธรรมดา จึงต้องทำการส่งโดยวิธีอื่นแทนดังที่ระบุไว้ในมาตรา 79 วรรคแรก แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ที่ศาลชั้นต้นสั่งอนุญาตให้ส่งหนังสือแจ้งการยึดทรัพย์และประกาศขายทอดตลาดทรัพย์ให้จำเลยที่ 4 ทราบโดยวิธีประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์นั้น เป็นการใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรชอบด้วยกฎหมายแล้ว และประกาศโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ดังกล่าวย่อมมีผลใช้ได้ เมื่อกำหนด 15 วันได้ล่วงพ้นไปแล้ว ดังที่บัญญัติไว้ในมาตรา 79 วรรคสอง ที่ทนายจำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องคัดค้านว่าจำเลยที่ 4 มิได้อยู่ในประเทศไทยเพราะเดินทางไปต่างประเทศแล้ว จะถือว่าได้มีการส่งคำคู่ความหรือเอกสารถูกต้องตามกฎหมายแล้วไม่ได้นั้น ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน