ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำให้การไม่ชัดเจน vs. การปฏิเสธลายมือชื่อปลอม: ศาลต้องพิจารณาประเด็นที่ยกขึ้นว่ากล่าวแล้ว
การที่จำเลยให้การต่อสู้โจทก์เพียงว่าโจทก์ไม่ได้เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น โดยหาได้ยกข้อเท็จจริงขึ้นกล่าวอ้างเพื่อให้เป็นประเด็นให้ศาลวินิจฉัยด้วยว่าเหตุใดหรือด้วยวิธีอย่างใดโจทก์จึงไม่เป็นผู้ทรงเช็คโดยชอบด้วยกฎหมายจึงเป็นคำให้การไม่ชัดแจ้ง ไม่มีประเด็นที่จำเลยจะนำสืบ เมื่อศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์นำสืบว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมาย และจำเลยไม่มีประเด็นที่จะนำสืบให้เห็นเป็นอย่างอื่นได้เพราะมิได้ให้การไว้ ที่จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ต่อมาเท่ากับเป็นการขอให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยในประเด็นดังกล่าวซึ่งยุติลงในศาลชั้นต้นแล้วอีก ดังนั้น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อนี้ให้เพราะถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นจึงเป็นการชอบแล้ว จำเลยให้การว่า เช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับจำเลยมิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย ลายมือชื่อในเช็คตามฟ้องทั้งสองฉบับเป็นลายมือชื่อปลอม ดังนี้ คำให้การดังกล่าวเป็นการปฏิเสธความถูกต้องแท้จริงของลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาททั้งสองฉบับว่าไม่ใช่ลายมือชื่อของจำเลย แต่เป็นลายมือชื่อปลอม จึงเป็นคำให้การโดยชัดแจ้งรวมทั้งเหตุแห่งการนั้น ไม่จำต้องกล่าวว่าปลอมอย่างไรอีกชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177 วรรคสองและศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยปัญหาในข้อนี้แล้ว จำเลยอุทธรณ์ในปัญหาข้อนี้ต่อมาอีก จึงชอบที่ศาลอุทธรณ์จะต้องวินิจฉัยให้เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัย จึงเป็นการที่ศาลอุทธรณ์มิได้ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยการพิจารณาเป็นการไม่ชอบสมควรให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาในปัญหานี้และพิพากษาใหม่