ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำซัดทอดผู้ร่วมกระทำผิดมีพิรุธ พยานหลักฐานไม่เพียงพอลงโทษจำเลย
โจทก์ มี ศ. เพียงปากเดียวเป็นประจักษ์พยานเบิกความว่าพยานกับจำเลยทำงานที่บริษัทโจทก์ร่วม พยานเป็นช่างบริการมีหน้าที่ติดตั้งเครื่องอัดเม็ดพลาสติกและซ่อมแซม จำเลยทำหน้าที่เกี่ยวกับการติดตั้งใบมีดเครื่องบดเม็ดพลาสติก และติดตั้งหม้ออบพลาสติก ขณะเกิดเหตุปรากฏว่ามีหม้ออบพลาสติกเกินสต๊อกมา 1 เครื่อง จำเลยตกลงกับพยานว่าจะนำเครื่องอบพลาสติกดังกล่าวใส่รถยนต์ของพยานและนำไปเก็บที่ บ้านพยาน หลังจากนั้นประมาณครึ่งเดือนจึงหม้ออบพลาสติกไปขายได้เงินมา 12,000 บาท นำเงินมาแบ่งกันระหว่างพยานกับจำเลย เห็นได้ว่าพยานปากนี้เป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแม้ไม่มีบทบัญญัติกฎหมายห้ามมิให้รับฟังคำพยานปากนี้ก็ตามแต่คำเบิกความของพยานปากนี้เป็นคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำผิดต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง เมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว พยานเป็นเจ้าของยานพาหนะที่ใช้เพื่อความสะดวกแก่การกระทำผิดและการพาทรัพย์นั้นไป หากผู้กระทำความผิดต้องรับโทษแล้วต้องริบรถยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิดด้วยแสดงว่าพยานเป็นผู้รับโทษหนักที่สุด จึงไม่มีเหตุอันใด ที่พยานจะต้องไปรับสารภาพผิดกับพนักงานฝ่ายบุคคลของบริษัทว่าพยานกับพวกนำทรัพย์ไปขายทั้ง ๆ ที่ไม่มีเหตุสงสัยว่าพยานเป็นผู้กระทำความผิด คำเบิกความของพยานปากนี้จึงมีเหตุสงสัย มีพิรุธ มีน้ำหนักน้อย แม้โจทก์จะมีพันตรี ธ.มาเบิกความว่าว. คุยให้ฟังว่าจำเลยได้ทำเอกสารบันทึกข้อความดังกล่าวให้ไว้ด้วยก็ตาม แต่พยานปากนี้ไม่เห็นเหตุการณ์ขณะจำเลยทำข้อความ เอกสารดังกล่าวจึงเป็นเพียงพยานบอกเล่าและ ว. ก็ไม่ได้มาเบิกความยืนยันว่าจำเลยได้ทำต่อหน้าจริง เอกสารดังกล่าวจึงรับฟังไม่ได้พยานโจทก์จึงมีแต่เพียงคำซัดทอดของผู้ร่วมกระทำความผิดเพียงปากเดียว ไม่มีพยานหลักฐานอื่นสนับสนุน ทั้งจำเลย ให้การปฏิเสธตลอดมา จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะลงโทษจำเลยได้