ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 340 ตรี, 91 ลงโทษตามมาตรา 288, 289 ให้ประหารชีวิต ลงโทษตามมาตรา 340 ให้ประหารชีวิต เมื่อลงโทษประหารชีวิตแล้วจึงไม่อาจเพิ่มโทษตามมาตรา 340 ตรี ให้จำเลยร่วมกันคืนทรัพย์หรือใช้ราคาทรัพย์แก่เจ้าของศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2 โจทก์และจำเลยที่ 1 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า "คำเบิกความของนางสาวมาลัยกับนางสุภาพไม่ขัดกันอย่างใด พยานฐานที่อยู่ที่จำเลยทั้งสองนำสืบมาศาลฎีกาเห็นว่าไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานโจทก์ได้ ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น ส่วนฎีกาของจำเลยที่ 1 ฟังไม่ขึ้น
ที่จำเลยที่ 1 ฎีกาว่า คดีน่าจะเป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นและความผิดฐานลักทรัพย์ ที่ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 289 และ 340, 340 ตรี นั้น จำเลยที่ 1 ไม่เห็นพ้องด้วย ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วคดีได้ความจากนางสุภาพภริยาผู้ตายว่า พอจำเลยทั้งสองและพวกมาถึงบ้านผู้ตายแล้วจำเลยที่ 1 ได้ถามผู้ตายว่าเห็นกระบือหายมาทางนี้ตัวหนึ่งไหม พอผู้ตายบอกว่าไม่เห็นจำเลยทั้งสองก็ตรงเข้าจับผู้ตายแล้วช่วยกันกลุ้มรุมทำร้ายผู้ตาย โดยช่วยกันต่อยเตะและเอาปืนยิงผู้ตายหลายนัดแล้วจำเลยที่ 1 ขึ้นไปบนเรือนเอาปืน วิทยุและเข็มขัดลงมา ส่วนจำเลยที่ 2และพวกตรงเข้าคอกไปจูงกระบือออกมาและได้คุมตัวภริยาและน้องสาวผู้ตายให้ไปส่งนั้น เห็นว่า แม้จำเลยและพวกจะไม่ได้ขู่เข็ญก่อนที่จะใช้ปืนยิงผู้ตายก็ดี แต่การที่จำเลยใช้ปืนยิงผู้ตายแล้วเอาทรัพย์สินของผู้ตายไปก็เพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์หรือการพาทรัพย์นั้นไปอันเป็นความผิดฐานปล้นทรัพย์ และในขณะเดียวกันการที่จำเลยกับพวกใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนถึงแก่ความตายเป็นการฆ่าผู้อื่นเพื่อความสะดวกในการปล้นทรัพย์ด้วย เพราะถ้าหากว่าจำเลยและพวกไม่ยิงผู้ตายเสียก่อนการลักทรัพย์ก็อาจไม่สำเร็จโดยอาจถูกผู้ตายขัดขวางการกระทำของจำเลยทั้งสองกับพวกจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 340 ตรี ฎีกาของจำเลยที่ 1ในข้อนี้จึงฟังไม่ขึ้นอีกเช่นกันแต่ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองตามมาตรา 288, 289 กระทงหนึ่ง และให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองตามมาตรา 340 อีกกระทงหนึ่งนั้น ไม่ถูกต้อง เพราะการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นกรรมเดียว แต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท จึงต้องใช้กฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแต่บทเดียว
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289, 340, 340 ตรี ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 14, 15 ให้ลงโทษฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้คนตายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคท้าย โดยให้ประหารชีวิตจำเลยทั้งสองให้จำเลยร่วมกันคืนอาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องรับวิทยุ 1 เครื่อง และเข็มขัดเงิน 1 เส้น หรือใช้ราคาทรัพย์รวม 4,500 บาทแก่เจ้าของ"