คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 และให้จำเลยคืนรถจักรยานยนต์ พร้อมกุญแจรถจักรยานยนต์ หรือชดใช้ราคาทรัพย์ที่ยังไม่ได้คืนเป็นเงิน 144,516.06 บาท แก่บริษัทอยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลิส จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับฟ้อง นัดสอบคำให้การจำเลย วันที่ 12 มิถุนายน 2562 จำเลยให้การปฏิเสธ และปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาท้ายคำให้การว่า จำเลยแถลงต้องการทนายความและขอนำคดีเข้าศูนย์ไกล่เกลี่ย ศาลชั้นต้นสั่งให้มีหนังสือแจ้งผู้เสียหายมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เวลา 9 นาฬิกา นัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ/คุ้มครองสิทธิ/ตรวจพยานหลักฐาน/ไกล่เกลี่ยในวันเวลาดังกล่าว ให้จำเลยพบทนายความก่อนถึงวันนัด หากจำเลยให้การปฏิเสธให้ผู้พิพากษาประจำศูนย์กำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานและประชุมคดี และแจ้งให้คู่ความ ทนายความปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐานด้วย ถึงวันนัดจำเลยและทนายจำเลยมาศาล โจทก์ทราบนัดแล้วไม่มา ศาลชั้นต้นรอโจทก์จนถึงเวลา 11.10 นาฬิกา แล้วมีคำสั่งยกฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ยกฟ้องโจทก์ ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาตามรูปคดีต่อไป
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยว่า ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องโจทก์ และย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาตามรูปคดีต่อไปชอบหรือไม่ เห็นว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า ถ้าโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัด ให้ศาลยกฟ้องเสีย คำว่า "กำหนดนัด" ตามบทบัญญัติดังกล่าว หมายถึง กำหนดนัดไต่สวนมูลฟ้องหรือกำหนดนัดตรวจพยานหลักฐานหรือกำหนดนัดพิจารณา ซึ่งเป็นหน้าที่ของโจทก์ที่จะต้องมาดำเนินกระบวนพิจารณาต่อศาลตามที่กฎหมายกำหนด ข้อเท็จจริงได้ความว่า ภายหลังศาลชั้นต้นประทับฟ้องและจำเลยยื่นคำให้การปฏิเสธแล้ว จำเลยแถลงขอนำคดีเข้าศูนย์ไกล่เกลี่ย ศาลชั้นต้นอนุญาตและให้มีหนังสือแจ้งผู้เสียหายมาศาลเพื่อไกล่เกลี่ยในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เวลา 9 นาฬิกา ทั้งต่อมานิติกรชำนาญการพิเศษของศาลชั้นต้นมีหนังสือเชิญผู้รับมอบอำนาจของผู้เสียหายมาไกล่เกลี่ยกับจำเลย ณ ห้องประชุมไกล่เกลี่ย ชั้น 2 ในวันเวลาดังกล่าวเพื่อยุติคดีตามที่ศาลชั้นต้นกำหนด จึงเป็นการนัดผู้เสียหายและจำเลยมาไกล่เกลี่ยซึ่งมิได้เกี่ยวข้องกับโจทก์ การที่ศาลชั้นต้นบันทึกรายงานกระบวนพิจารณาว่า นัดพร้อมเพื่อสอบคำให้การ/คุ้มครองสิทธิ/ตรวจพยานหลักฐาน/ไกล่เกลี่ยวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 เวลา 9 นาฬิกา หากจำเลยให้การปฏิเสธให้ผู้พิพากษาประจำศูนย์กำหนดวันนัดตรวจพยานหลักฐานและประชุมคดี และแจ้งให้คู่ความ ทนายความปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการประชุมคดีและตรวจพยานหลักฐานด้วย แสดงว่าในการนัดตรวจพยานหลักฐานนั้น ศาลชั้นต้นจะต้องกำหนดวันนัดและแจ้งให้คู่ความทราบอีกชั้นหนึ่ง ดังนั้น การที่โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพร้อมเพื่อไกล่เกลี่ย ซึ่งมิใช่วันนัดตรวจพยานหลักฐานหรือนัดพิจารณา จึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 181 ที่ศาลชั้นต้นจะยกฟ้องโจทก์เสียได้ ที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 ให้ยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาศาลตามกำหนดนัด โดยอาศัยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคหนึ่ง แล้วดำเนินกระบวนพิจารณาต่อมาหลังจากมีคำสั่งดังกล่าวจึงไม่ชอบ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้ยกฟ้องโจทก์ และให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาพิพากษาตามรูปคดีต่อไปนั้นชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้นพิพากษายืน