โจทก์ฟ้องว่า จำเลยละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนคำว่า TIGERSTOUT กับรูปเสือ คำว่า TIGER LAGER BER กับรูปเสือ และ TIGER BEER กับรูปเสือซึ่งใช้กับสินค้าจำพวกที่ 32 รายการสินค้า เบียร์ และเบียร์สเตาต์ของโจทก์โดยเมื่อเดือนตุลาคม 2542 จำเลยได้ผลิต จำหน่าย และเสนอจำหน่ายสินค้าเบียร์ โดยใช้เครื่องหมายการค้าคำว่า BLACK TIGER BEER และเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2542 จำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าดังกล่าวกับสินค้าจำพวกที่ 32 รายการสินค้า เบียร์ กับทำการลวงขายสินค้าของจำเลยว่าเป็นสินค้าของโจทก์ ขอให้บังคับจำเลยยุติการผลิต จำหน่าย และเสนอจำหน่ายสินค้าเบียร์ภายใต้เครื่องหมายการค้าคำว่าBLACK TIGER BEER ให้จำเลยจัดเก็บสินค้าดังกล่าวให้หมดจากท้องตลาดโดยค่าใช้จ่ายของจำเลย ให้จำเลยถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าตามคำขอเลขที่403006 หากไม่ปฏิบัติตาม ให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย ห้ามจำเลยใช้ยื่นคำขอจดทะเบียนหรือเข้าเกี่ยวข้องในทางใด ๆ กับเครื่องหมายการค้าคำว่า BLACK TIGER BEER และเครื่องหมายการค้าอื่นใดที่เหมือนหรือคล้ายกับเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์ทั้งสามเครื่องหมายดังกล่าวต่อไป ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ในอัตราเดือนละ 1,000,000 บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะยุติการทำละเมิดเครื่องหมายการค้าของโจทก์และถอนคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าขอเลขที่ 403006
จำเลยให้การต่อสู้คดี ขอให้ยกฟ้อง
ผู้ร้องสอดยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของและคิดออกแบบเครื่องหมายการค้ารูปหัวเสือดำอยู่เหนือทุ่งหญ้ามีแถบสีดำคล้ายพื้นดินอยู่ด้านล่างและมีอักษรโรมันคำว่า BLACK TIGER BEER อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม โจทก์ไม่ใช่เจ้าของเครื่องหมายการค้าคำว่า TIGER กับรูปเสือตามคำฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง และพิพากษาให้ผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของเครื่องหมายการค้ารูปหัวเสือดำอยู่เหนือทุ่งหญ้ามีแถวสีดำอยู่ด้านล่างและมีอักษรคำว่าBLACK TIGER BEER อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม และอนุญาตให้ผู้ร้องสอดเข้าเป็นคู่ความฝ่ายที่ 3 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอนุญาต
โจทก์ให้การแก้คำร้องสอดว่า ผู้ร้องสอดและจำเลยละเมิดสิทธิในเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของโจทก์โดยการลวงขาย ขอให้พิพากษาบังคับผู้ร้องสอดและจำเลยตามคำขอท้ายคำฟ้อง
จำเลยให้การแก้คำร้องสอดว่า ผู้ร้องสอดไม่ใช่ผู้มีส่วนเสียในคดีนี้ ขอให้ยกคำร้องสอด
ในวันนัดพร้อมและชี้สองสถาน ทนายจำเลยแถลงว่า ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของจำเลย และคดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลยขอให้ศาลงดการพิจารณาไว้และจำหน่ายคดีชั่วคราว โจทก์คัดค้านว่า คำฟ้องคดีนี้ไม่เกี่ยวกับทรัพย์สินและการฟื้นฟูกิจการของจำเลย ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นว่าคำฟ้องของโจทก์เกี่ยวกับทรัพย์สินของจำเลย เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากที่ศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของจำเลยไว้พิจารณาแล้ว จึงขัดต่อพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/12(4) ที่ห้ามฟ้องคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ แต่เมื่อศาลได้รับคำฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาแล้วและโจทก์มีสิทธิขอให้ศาลล้มละลายกลางยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดสิทธิดังกล่าวได้ตามมาตรา 90/13 จึงเห็นสมควรให้งดการพิจารณาไว้โดยให้โจทก์ไปยื่นคำร้องขอต่อศาลล้มละลายกลางเพื่อให้ยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดสิทธิต่อไป และให้นัดพร้อมเพื่อฟังผลคำสั่งของศาลล้มละลายกลางวันที่ 8 ธันวาคม 2543
โจทก์ยื่นคำร้องขอให้มีคำสั่งให้พิจารณาคดีต่อไปอ้างว่า โจทก์ได้แก้ไขคำฟ้องโดยไม่ติดใจเรียกร้องค่าเสียหาย ประเด็นแห่งคดีที่เหลือจึงไม่ใช่คดีที่เกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเห็นว่า แม้โจทก์จะขอแก้ไขคำฟ้องโดยไม่ติดใจเรียกค่าเสียหายและศาลอนุญาตแล้วก็ตาม แต่สิทธิในคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นวัตถุที่ไม่มีรูปร่างซึ่งมีราคาและถือเอาได้และพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. 2534 ก็รับรองสิทธิดังกล่าวไว้ สิทธิในคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นทรัพย์สินอย่างหนึ่ง เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้หลังจากศาลล้มละลายกลางรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของจำเลยไว้ จึงขัดต่อพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/12(4) ที่ห้ามฟ้องร้องคดีแพ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินของลูกหนี้ จึงมีคำสั่งว่าไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม กล่าวคือ ไม่อนุญาตให้ยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไป
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า"ที่โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางยกคดีขึ้นพิจารณาต่อไปนั้น เห็นว่า คำสั่งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางที่ไม่อนุญาตให้ยกคดีที่ได้งดการพิจารณาไว้ขึ้นพิจารณาต่อไปเป็นคำสั่งที่มิได้ทำให้คดีเสร็จไปจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเพราะศาลดังกล่าวได้มีคำสั่งให้นัดพร้อมเพื่อฟังผลคำสั่งศาลล้มละลายกลางเกี่ยวกับคำร้องขอของโจทก์เพื่อให้ศาลล้มละลายกลางยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงข้อจำกัดสิทธิตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 90/13 กรณีจึงเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาก่อนที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางจะได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งชี้ขาดตัดสินคดี โจทก์จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวในระหว่างพิจารณาตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ. 2539 มาตรา 38 ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226(1) ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศไม่รับวินิจฉัย"
พิพากษายกอุทธรณ์ของโจทก์