ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปรับบทลงโทษจากประกาศแพทยสภาต้องมีกฎหมายบัญญัติความผิดและโทษชัดเจน การปรับบทลงโทษตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรมที่ไม่กำหนดโทษจึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยซึ่งประกอบอาชีพแพทย์โดยขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม และจำเลยได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลกับได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการสถานพยาบาลคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา แต่ให้ผู้ประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลซึ่งรวมถึงตัวจำเลยเองจัดให้มีการบริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในสถานพยาบาลแก่ผู้ว่าจ้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ตามประกาศแพทยสภา โดยให้หญิงซึ่งมิได้เป็นญาติโดยสายเลือดของคู่สมรสที่ต้องการมีบุตรตั้งครรภ์แทนคู่สมรสนั้น และโดยจำเลยมิได้รับหนังสือรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทยโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การกระทำของจำเลยเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 มาตรา 34 (2), 65ป.อ. มาตรา 2 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "บุคคลจักต้องรับโทษในทางอาญาต่อเมื่อได้กระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้และโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้น ต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย" โจทก์บรรยายฟ้องตอนหนึ่งว่า จำเลยกระทำฝ่าฝืนประกาศแพทยสภาที่ 1/2540 และที่ 21/2544 ซึ่งออกประกาศโดยอาศัยอำนาจตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 21 (1) ปรากฏว่า พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 7 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดวัตถุประสงค์ของแพทยสภา ส่วนมาตรา 21 เป็นบทบัญญัติที่ให้คณะกรรมการแพทยสภามีอำนาจหน้าที่ต่าง ๆ แต่กฎหมายทั้งสองมาตราดังกล่าวไม่ได้บัญญัติว่าผู้ฝ่าฝืนข้อบังคับหรือประกาศแพทยสภานั้นมีความผิดและไม่ได้กำหนดโทษไว้ จึงต้องถือว่าขณะจำเลยกระทำการตามโจทก์บรรยายฟ้องไว้ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงต้องถือว่าขณะจำเลยกระทำการตามโจทก์บรรยายฟ้องไว้ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ จึงไม่อาจปรับบทลงโทษตาม พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 มาตรา 7, 21 ได้