โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นภริยาของนายสมบุญลูกจ้างบริษัท บี.ดับบิว.ทรานสปอร์ต จำกัด ซึ่งถึงแก่กรรมเพราะประสบอุบัติเหตุจากการทำงานโจทก์และบุตรคือนายสมชายได้แจ้งขอรับเงินทดแทน เจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนอนุมัติให้นายสมชายมีสิทธิรับเงินทดแทนเป็นรายเดือนรวม ๖๐ เดือน แต่นายสมชายหมดสิทธิก่อนรับเงินครบ ๖๐ เดือน โจทก์จึงขอรับสิทธิต่อจากนายสมชาย แต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุมัติ จึงขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินทดแทนส่วนที่เหลือแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับนายสมบุญ จึงไม่ใช่ภริยาที่ชอบด้วยกฎหมายของนายสมบุญ และโจทก์มิได้ยื่นคำเรียกร้องเงินทดแทนภายในกำหนด ๙๐ วันนับแต่วันที่ทราบว่านายสมบุญตาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทน ขอให้ยกฟ้อง
วันนัดพิจารณา โจทก์แถลงว่าขณะนายสมบุญตาย โจทก์ต้องโทษอยู่ในเรือนจำและได้แจ้งด้วยวาจาต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนภายใน ๙๐ วันนับแต่วันที่ทราบว่านายสมบุญตาย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าโจทก์เป็นภริยาโดยมิชอบด้วยกฎหมายไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทน ในครั้งนั้นโจทก์จึงมิได้ยื่นคำร้องขอรับเงินทดแทน ต่อมาโจทก์จึงมาขอรับช่วงสิทธิของนายสมชาย
ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง อัตราและวิธีเรียกเก็บเงินสมทบ การจ่ายเงินทดแทนของสำนักงานกองทุนเงินทดแทน และการอุทธรณ์ ลงวันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๑๖ ข้อ ๑๕ วรรคสอง กำหนดให้ผู้มีสิทธิยื่นคำร้องเรียกเงินทดแทนจากสำนักงานกองทุนเงินทดแทนตามแบบที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนภายในกำหนด ดังนั้น การที่โจทก์แจ้งต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานกองทุนเงินทดแทนด้วยวาจาจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขและวิธีการที่กำหนดไว้ในเรื่องการรับเงินทดแทนตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวโจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินทดแทน
โจทก์อุทธรณ์ว่าโจทก์มีสิทธิได้รับเงินทดแทนส่วนที่เหลือจากนายสมชายมีสิทธิได้รับในอันดับต่อไปในฐานะโจทก์เป็นภริยาผู้ตายและขาดไร้อุปการะเห็นว่า ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๑๕ ข้อ ๕๐ วรรคหนึ่งและวรรคสองมีความหมายว่า เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายถึงแก่ความตาย ต้องพิจารณาว่ามีผู้มีสิทธิได้รับค่าทดแทนตามวรรคหนึ่งหรือไม่ถ้ามีผู้นั้นก็มีสิทธิได้รับเงินทดแทนถ้าไม่มีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งแล้ว สิทธิที่จะได้รับเงินทดแทนจึงจะได้แก่ผู้มีสิทธิตามวรรคสองคือผู้ซึ่งอยู่ในอุปการะของลูกจ้างที่ตาย มิได้หมายความว่าเมื่อมีผู้มีสิทธิตามวรรคหนึ่งและผู้นั้นได้รับเงินทดแทนไปบางส่วนแล้วต่อมาผู้นั้นหมดสิทธิลงไม่ว่าเพราะเหตุใดเหตุหนึ่งตามประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวกำหนดไว้ ก็ให้บุคคลตามวรรคสองเข้ารับเงินทดแทนในส่วนที่เหลือต่อไปประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับดังกล่าวกำหนดตัวผู้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนไว้เท่านั้น มิใช่เป็นการจัดลำดับผู้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนก่อนหลังดังที่โจทก์อุทธรณ์สิทธิได้รับเงินทดแทนของนายสมชายบุตรโจทก์เป็นสิทธิเฉพาะตัวของนายสมชาย โจทก์จึงไม่มีสิทธิจะได้รับเงินทดแทนต่อจากนายสมชาย ศาลแรงงานกลางพิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน