โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑๓๑,๐๘๘ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ เจ็ดครึ่งต่อปีนับจากวันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยทั้งสองให้การว่า เหตุที่รถเฉี่ยวชนกันเป็นเพราะความประมาทเลินเล่อของนายสมเจตน์ เจริญภักตร ต่อมานายสมเจตน์ถูกฟ้องฐานขับรถโดยประมาท ศาลพิพากษาลงโทษนายสมเจตน์ตามฟ้อง จำเลยทั้งสองไม่ต้อง รับผิด ขอให้ยกฟ้อง
ระหว่างพิจารณา ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดการชี้สองสถาน งดสืบพยานโจทก์และจำเลยทั้งสอง
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ พิพากษาคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการสืบพยานแล้วพิพากษาใหม่ตาม รูปคดี ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยทั้งสองว่า โจทก์ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยมิใช่นายจ้าง ของนายสมเจตน์จะต้องผูกพันตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นในส่วนคดีอาญาที่พิพากษาว่า นายสมเจตน์ขับรถประมาทเป็นเหตุให้เกิดคดีนี้หรือไม่ เห็นว่า โจทก์และบริษัทชัยวารีมารีนโปรดัคส์ จำกัด นายจ้างของนายสมเจตน์ มิได้ถูกฟ้องในคดีอาญาที่นายสมเจตน์ถูกฟ้อง คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวจึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ และบริษัท ชัยวารีมารีนโปรดัคส์ จำกัด ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก โจทก์และบริษัทชัยวารีมารีนโปรดัคส์ จำกัด ยังอาจยกเป็นข้อต่อสู้ และนำสืบในคดีแพ่งนี้ได้ว่านายสมเจตน์มิได้เป็นฝ่ายขับรถประมาทเลินเล่อต่อจำเลยทั้งสอง หากแต่จำเลยที่ ๑ เป็นฝ่าย ขับรถประมาทละเมิดต่อรถของบริษัทชัยวารีมารีนโปรดัคส์ จำกัด ซึ่งนายสมเจตน์เป็นผู้ขับ และหากนำสืบได้เช่นนี้ โจทก์ในฐานะผู้รับประกันภัยและได้ชำระค่าซ่อมรถคันดังกล่าวไปแล้ว ย่อมมีสิทธิที่จะรับช่วงสิทธิของบริษัทชัยวารีมารีนโปรดัคส์ จำกัด เรียกค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสองได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๘๐ และมาตรา ๒๒๖
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำพิพากษาใหม่