คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 3, 14, 16/1 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91 ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย ลบข้อความในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และโฆษณาคำพิพากษาในสื่อดังกล่าว ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งว่าคดีมีมูล ให้ประทับฟ้องไว้พิจารณา จำเลยให้การปฏิเสธและให้การต่อสู้ในคดีส่วนแพ่งศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมในชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ ต่อมาทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบในส่วนคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำสั่งว่า คดีนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์ หากโจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 6 ดังกล่าวอย่างไรก็ชอบที่จะใช้สิทธิฎีกาตามกฎหมายต่อไป กรณีมิใช่เรื่องที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ให้ยกคำร้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายืน โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 และไม่ปรากฏว่าผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีความเห็นแย้งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 โจทก์จึงไม่สามารถใช้สิทธิฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 แต่ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 มิได้นำข้อเท็จจริงซึ่งพิจารณาได้ความมาเป็นเหตุผลในการตัดสินเป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 โจทก์จึงขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้นั้น เห็นว่า โจทก์ยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ โดยอ้างว่าศาลอุทธรณ์ภาค 6 มิได้นำข้อเท็จจริงที่ได้ความจากพยานหลักฐานตามที่โจทก์นำสืบมาเป็นเหตุผลในการตัดสิน เป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 186 ในข้อที่มุ่งหมายจะยังให้การเป็นไปด้วยความยุติธรรมหรือที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเรื่องการพิจารณาพยานหลักฐาน ขอให้เพิกถอนการพิจารณาวินิจฉัยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 27 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 เท่ากับเป็นการขอให้ศาลอุทธรณ์ภาค 6 เพิกถอนคำวินิจฉัยเดิมแล้ววินิจฉัยพยานหลักฐานเสียใหม่ อันมีผลเป็นการแก้ไขคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 โดยมิใช่เป็นการแก้ไขถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาดหรือเป็นการแก้ไขข้อผิดพลาดเล็กน้อยหรือข้อผิดหลงเล็กน้อยอื่น ๆ จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 190 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 143 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โจทก์จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบ ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่า โจทก์ต้องห้ามมิให้ฎีกาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 หาก่อให้เกิดสิทธิแก่โจทก์ที่จะยื่นคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบได้ไม่ ฎีกาของโจทก์นอกจากนี้ไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่เป็นสาระแก่คดี ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 มีคำสั่งยกคำร้องขอให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาที่ผิดระเบียบของโจทก์ ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน