โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา339 วรรคสอง และคืนกระเป๋าและเงินสดของกลางแก่เจ้าของ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง จำคุก 12 ปี ของกลางคืนแก่ผู้เสียหาย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ในเบื้องต้นว่า วันเกิดเหตุตามฟ้องเวลาประมาณ 18 นาฬิกา ผู้เสียหายกลับจากทำงานได้มาขึ้นรถโดยสารประจำทางสาย 203 ที่ป้ายจอดรถโดยสารประจำทางด้านตรงกันข้ามห้างสรรพสินค้าพาต้าปิ่นเกล้าเพื่อกลับบ้านที่แขวงบางพลัด ขณะที่ผู้เสียหายขึ้นรถโดยสารประจำทางถูกคนร้ายเข้ามาทางด้านหลังกระแทกตรงหัวไหล่ และคนร้ายล้วงเอากระเป๋าสตางค์ ภายในกระเป๋ามีเงินอยู่ 900 บาท ซึ่งใส่ไว้ในกระเป๋าที่ผู้เสียหายสะพายไป มีปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่าจำเลยเป็นคนร้ายรายนี้หรือไม่ พยานหลักฐานจำเลยไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ล้วงกระเป๋าผู้เสียหาย พฤติการณ์ที่จำเลยเข้าไปใช้ร่างกายกระแทกที่หัวไหล่ผู้เสียหายอย่างแรงจนผู้เสียหายเซไปปะทะบันไดรถเป็นการที่จำเลยใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เพื่อสะดวกแก่การลักทรัพย์ของผู้เสียหายขณะที่อยู่บนรถโดยสารประจำทางอันเป็นยวดยานสาธารณะซึ่งประชาชนใช้โดยสาร จำเลยจึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 วรรคสอง ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์นั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น"
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น