โจทก์ฟ้องว่า โจทก์นำปากกาลูกลื่นเครื่องหมายการค้า"เรโนลด์" จากประเทศฝรั่งเศสเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน300,000 ชิ้น ราคาชิ้นละ 0.09 ฟรังก์ โดยชำระค่าภาษีอากรขาเข้าภาษีการค้า ภาษีบำรุงเทศบาล และค่าธรรมเนียมพิเศษให้จำเลยรวม54,654.86 บาท แต่เมื่อโจทก์ไปขอรับสินค้า เจ้าหน้าที่ของจำเลยแจ้งว่าโจทก์สำแดงรายการสินค้าในใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าผิดประเภท จะต้องชำระภาษีอากรเพิ่มขึ้น ภายหลังที่โจทก์วางหนังสือค้ำประกันของธนาคารภายในวงเงิน 116,700 บาทแล้วจำเลยจึงยอมให้โจทก์รับสินค้าไปได้โดยชักตัวอย่างสินค้าไปทำการตรวจสอบ ครั้นวันที่ 15 กรกฎาคม 2529 จำเลยได้ประเมินให้โจทก์เสียภาษีอากรเพิ่มขึ้นอีก 65,209.34 บาท โจทก์ได้ชำระเงินจำนวนนั้นให้แก่จำเลยแล้ว แต่โจทก์ไม่เห็นด้วย โจทก์อุทธรณ์การประเมินต่อจำเลย จำเลยไม่คืนเงินภาษีที่เรียกเก็บไปโดยไม่ถูกต้องให้ขอให้พิพากษาว่าการประเมินที่ให้โจทก์ชำระภาษีอากรเพิ่มขึ้นเป็นการไม่ชอบ ให้จำเลยคืนเงิน 65,209.34 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จแก่โจทก์ จำเลยให้การว่า สินค้าของโจทก์เป็นสินค้าคนละชนิดคนละประเภทและมีราคาสูงกว่าสินค้าอุปกรณ์ปากกา (ลูกลื่น) ที่โจทก์สำแดงไว้เจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินให้โจทก์ชำระภาษีเพิ่มเป็นเงินทั้งสิ้นรวม 65,209.34 บาท โจทก์ชำระเงินจำนวนนั้นแล้วโดยไม่โต้แย้ง เป็นการยอมรับว่าการประเมินดังกล่าวถูกต้องเป็นการสละสิทธิเรียกร้องใด ๆ จากจำเลย ขณะที่โจทก์นำคดีมาฟ้องคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์จึงไม่ได้มีคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการประเมินที่โจทก์อุทธรณ์ ฟ้องโจทก์ในปัญหาเรื่องภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาลจึงต้องห้ามตามประมวลรัษฎากร ขอให้ยกฟ้องศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนเงินภาษีศุลกากร 46,015.35 บาทพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 30กรกฎาคม 2529 เป็นต้นไปจนกว่าจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จคำขออื่นให้ยก จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากรวินิจฉัยว่า "ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าโจทก์นำสินค้า Ref. 094 REYNOLDS fibre tips for drawing in bulkจำนวน 300,000 ชิ้น ราคาชิ้นละ 0.09 ฟรังก์ เป็นเงิน 27,000 ฟรังก์ตามใบกำกับสินค้า เอกสารหมาย ล.3 จากประเทศฝรั่งเศสเข้ามาในราชอาณาจักร วันที่ 13 กรกฎาคม 2525 โจทก์ยื่นใบขนสินค้าขาเข้าและแบบแสดงรายการการค้าตามเอกสารหมาย ล.1 ต่อจำเลยเพื่อชำระอากรขาเข้า ภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล โดยระบุว่าสินค้าดังกล่าว เป็นอุปกรณ์ของปากกา หลังจากที่โจทก์ชำระอากรขาเข้าภาษีการค้าและภาษีบำรุงเทศบาล ตามที่คำนวณและระบุไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าฯ ดังกล่าวจำนวน 54,654.86 บาท ให้จำเลยแล้ว โจทก์ไปขอรับสินค้าที่นำเข้าจากจำเลย เจ้าหน้าที่ของจำเลยเปิดหีบห่อเพื่อตรวจปล่อยสินค้าให้โจทก์ ปรากฏว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นปากกาสำเร็จรูป REYNOLDS 093 จำนวน 300,000 ชิ้น ไม่ใช่อุปกรณ์ปากกาดังที่ระบุไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าฯ ดังนั้น ในการนำสินค้าออกไปจากอารักขาของจำเลยเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2525 โจทก์จึงต้องวางหนังสือค้ำประกันของธนาคารเพื่อค้ำประกันการชำระภาษีอากรที่อาจจะต้องชำระเพิ่มเติม ต่อมาจำเลยมีหนังสือขอให้โจทก์ไปทำความตกลงกับจำเลยเรื่องสำแดงชนิดของสินค้าไม่ถูกต้อง และในที่สุดจำเลยได้ส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนกองทะเบียนคนต่างด้าวและภาษีอากรดำเนินคดีแก่โจทก์ แต่พนักงานอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องปรากฏตามเอกสารหมาย จ.11 หลังจากนั้นจำเลยแจ้งการประเมินให้โจทก์ชำระภาษีอากรเพิ่มเติมตามเอกสารหมาย จ.18 เป็นเงินรวม 65,209.34บาท โจทก์ชำระแล้วเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2529 ตามเอกสารหมาย จ.19แล้วอุทธรณ์การประเมินต่อจำเลยตามเอกสารหมาย จ.13 คดีมีปัญหาว่าการประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มเติมชอบด้วยกฎหมายหรือไม่พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า สินค้าตามใบกำกับสินค้าเอกสารหมาย ล.3คือ Ref" 094 REYNOLDS Fibre tips For drawing in bulkได้ความตามคำแปลเอกสารหมาย ล.4 ที่โจทก์ส่งศาลว่าหมายเลขอ้างอิง094 ยี่ห้อเรโนลด์ ปากกาหัวไฟเบอร์ใช้เขียน ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าสินค้าที่โจทก์นำเข้าเป็นปากกา ไม่ใช่อุปกรณ์ของปากกาดังที่ชิปปิ้งของโจทก์ระบุคำแปลไว้ในใบขนสินค้าขาเข้าฯ เอกสารหมายล.1 เมื่อได้ความว่าการสั่งซื้อสินค้าตามฟ้อง โจทก์สั่งซื้อตามบัญชีราคาสินค้าเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งคำว่า FIBRE TIP FOR DRAWINGและ Complete (minimum order 300,000 pieces) ตามเอกสารนั้นตามทางนำสืบได้ความว่า ข้อความดังกล่าวแปลว่า ปลายปากกาไฟเบอร์สำหรับวาดเขียนและสำเร็จรูป (สั่งอย่างน้อย 300,000 ชิ้น)ตามลำดับ ดังนั้น เมื่อพิจารณาคำแปลดังกล่าวประกอบกับคำแปลเอกสารหมาย จ.1 ที่โจทก์ส่งศาล ข้อเท็จจริงตามบัญชีราคาสินค้าเอกสารหมาย จ.1 ในส่วนที่เกี่ยวกับสินค้าที่โจทก์สั่งเข้ามาในคดีนี้ฟังได้ว่า ปากกาหัวไฟเบอร์สำหรับวาดเขียนหรือใช้เขียนชนิด 093/094 สั่งซื้ออย่างน้อย 300,000 ชิ้น ตกราคา 9 ฟรังก์ต่อ 100 ชิ้น เห็นได้ชัดว่าถ้อยคำภาษาไทยที่ระบุว่า อุปกรณ์ของปากกาในใบขนสินค้าขาเข้าฯ เอกสารหมาย ล.1 เป็นการแปลผิดพลาดเมื่อโจทก์สั่งสินค้าดังกล่าวชนิด 094 แต่ผู้ขายกลับส่งสินค้าอย่างเดียวกัน ชนิด 093 มาให้แทน เห็นว่าแม้จะเป็นสินค้าคนละชนิดกับที่โจทก์สั่งซื้อ แต่เมื่อปากกาทั้งสองชนิดมีราคาเท่ากัน การที่ผู้ขายจะส่งปากกาชนิด 093 หรือ 094 มาให้ ก็ไม่ทำให้อากรขาเข้าที่โจทก์จะต้องชำระให้จำเลยเปลี่ยนแปลงไปแต่ประการใด ฉะนั้นที่จำเลยประเมินให้โจทก์ชำระอากรขาเข้าเพิ่มขึ้น จึงเป็นการประเมินที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ศาลภาษีอากรกลางวินิจฉัยคดีในปัญหาส่วนนี้มา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น
ข้อที่จำเลยอุทธรณ์ว่า โจทก์ได้รับสินค้าไปจากเจ้าพนักงานของจำเลยในวันตรวจปล่อยสินค้าโดยไม่ได้แจ้งความประสงค์จะขอค่าอากรที่อ้างว่าชำระเกินคืน จึงไม่มีสิทธิฟ้องขอคืนอากรนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ปัญหาข้อนี้ไม่ใช่ข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาในชั้นศาลภาษีอากรกลาง อุทธรณ์ของจำเลยจึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย แต่ที่ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้จำเลยคืนเงินภาษีศุลกากรพร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2529นั้น ปรากฏว่าโจทก์มีคำขอเพียงให้จำเลยคืนเงินภาษีพร้อมด้วยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องคือวันที่23 พฤษภาคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ คำพิพากษาศาลภาษีอากรกลางจึงพิพากษาให้จำเลยชำระเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง ปัญหานี้แม้จำเลยจะมิได้อุทธรณ์ แต่เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกามีอำนาจหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้"
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ 23 พฤษภาคม 2531 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง