ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ ไม่เข้าข่ายชิงทรัพย์ เหตุไม่ได้มีเจตนาเอาทรัพย์ตั้งแต่แรก
จำเลยโกรธผู้เสียหายที่เดินชนจำเลยแล้วไม่ขอโทษ จำเลยจึงพาพวกอีกคนหนึ่งมารุมชกต่อย เตะและใช้ไม้ตีผู้เสียหายจนล้มลง บังเอิญนาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายหลุดตกและ ผู้เสียหายเก็บนาฬิกาข้อมือ นั้นกลับคืนมาได้ แต่จำเลยใช้ไม้ตีผู้เสียหายอีกแล้วถือโอกาสแย่งเอา นาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายไปหลังจากนั้นจำเลยยังใช้ไม้ตีซ้ำ จนผู้เสียหาย แกล้งทำเป็นสลบจำเลยกับพวกจึงวิ่งหนีไปดังนี้ถือได้ว่าการชกต่อยเตะตี ทำร้ายติดต่อกันเนื่องมาจากสาเหตุเดิมคือโกรธที่เดินชนหาใช่ทำร้าย โดยมีเจตนาจะเอาทรัพย์มาแต่แรกไม่ และการที่จำเลยแย่งเอา นาฬิกาข้อมือของผู้เสียหายไปในลักษณะดังกล่าวก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าในทันใดนั้นจะใช้กำลังประทุษร้าย อันเป็นความผิดฐานชิงทรัพย์ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายและฐานลักทรัพย์
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานชิงทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 339 กระทงเดียว ศาลย่อมลงโทษจำเลยฐานทำร้ายร่างกายตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 กระทงหนึ่ง และฐานลักทรัพย์ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335 อีกกระทงหนึ่ง ซึ่งมีโทษเบากว่า ข้อหา ฐานชิงทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา192 ที่แก้ไขใหม่