โจทก์ฟ้องของให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖
จำเลยให้การปฏิเสธ
ก่อนสืบพยานโจทก์ นางทิพย์วิมล ตันติรถานนท์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ ให้ลงโทษจำคุก ๑ เดือน ปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ๑ ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๖ ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙, ๓๐
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า พยานหลักฐานของโจทก์ยังเป็นที่น่าสงสัยว่าจำเลยจะได้กล่าวถ้อยคำตามฟ้องหรือไม่ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยได้ค่านางอนงค์ว่า "แม่ผัวเฮงซวยมึงรู้หรือเปล่าว่าลูกสะใภ้มึงซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์ผู้ชายขึ้นโรงแรม ลูกสะใภ้มึงสวมเขาให้ลูกชายมึง" และวินิจฉัยว่า โจทก์ร่วมเป็นลูกสะใภ้คนเดียวของนางอนงค์ ฉะนั้นถ้อยคำที่จำเลยกล่าวหมิ่นประมาทจึงเป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ร่วมนั่นเอง
พิพากษากลับว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๒๖ ให้ลงโทษปรับจำเลย ๑,๐๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๙, ๓๐.