โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยในราคา 73,770 บาทและผ่อนชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนแล้ว แต่จำเลยไม่ยอมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ จึงขอให้บังคับจำเลยไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ในหนังสือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ของกองทะเบียนยานพาหนะ กรุงเทพมหานคร เป็นชื่อโจทก์ หากจำเลยไม่ยอมปฏิบัติตามขอให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนาแทน
จำเลยให้การว่า โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยจริง แต่โจทก์ชำระค่าเช่าซื้อหลายงวดไม่ตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่าซื้อซึ่งโจทก์จะต้องเสียค่าปรับในอัตราร้อยละ 1.50 ต่อเดือนโจทก์ค้างชำระค่าปรับเป็นเงิน 957 บาท จำเลยแจ้งให้โจทก์ชำระแล้วแต่โจทก์ไม่ยอมชำระ จำเลยจึงยังไม่มีหน้าที่ต้องไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในรถยนต์ดังกล่าวแก่โจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยจดทะเบียนโอนชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ในหนังสือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์จากชื่อจำเลยเป็นของโจทก์หากไม่ไป ก็ให้ถือเอาคำพิพากษาของศาลเป็นการแสดงเจตนา กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลให้เป็นพับ
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลย ตกลงชำระค่าเช่าซื้อ 30 งวด ภายในวันที่ 19ของทุกเดือน โจทก์ได้ชำระค่าเช่าซื้อให้จำเลยครบทุกงวดแล้วบางครั้งโจทก์ชำระก่อนถึงกำหนด แต่บางครั้งโจทก์ก็ชำระช้ากว่าที่กำหนด โจทก์ไปติดต่อขอโอนทะเบียนรถยนต์จากจำเลย จำเลยคิดค่าปรับที่โจทก์ชำระเงินค่าเช่าซื้อล่าช้าเป็นเงิน 957 บาทโจทก์ไม่ยอม จำเลยจึงไม่ยอมโอนทะเบียนรถยนต์ดังกล่าว คดีมีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยว่า โจทก์จะต้องชำระค่าปรับให้จำเลยหรือไม่เห็นว่า โจทก์ได้ชำระค่าเช่าซื้อครบทุกงวดแล้ว ตามใบเสร็จรับเงินทุกฉบับมีช่องค่าปรับ แต่ไม่ระบุจำนวนเงินเพื่อให้โจทก์ทราบและมีโอกาสชำระค่าปรับเสียแต่เนิ่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใบเสร็จรับเงินเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งเป็นต้นฉบับของเอกสารหมาย ล.24 และเป็นการชำระค่าเช่าซื้องวดสุดท้าย มีรอยตราประทับไว้ว่า"โปรดทำการโอนภายใน 15 วัน" พร้อมทั้งมีเส้นขีดล้อมรอบช่อง"ค่าเช่าซื้องวดสุดท้าย" แต่ไม่มีจำนวนเงินระบุไว้ในช่องค่าปรับแสดงว่าจำเลยยอมรับชำระหนี้แล้ว โดยมิได้สงวนสิทธิจะเรียกเอาเบี้ยปรับในเวลารับชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 381 วรรคสาม จำเลยจึงไม่มีสิทธิเรียกเอาเบี้ยปรับจากโจทก์อีกต่อไป เมื่อโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบแล้วและไม่ต้องชำระค่าปรับแก่จำเลย จำเลยจึงต้องจดทะเบียนโอนเปลี่ยนชื่อเจ้าของรถยนต์ให้โจทก์
พิพากษากลับ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ3,000 บาท.