โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15, 66, 102 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90, 83ริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 15, 66 (ที่ถูกมาตรา 66วรรคสอง) 102, พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ 2)พ.ศ. 2528 มาตรา 4 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ลงโทษประหารชีวิตคำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 52คงจำคุกตลอดชีวิต ของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 66 วรรคสองประกอบด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 52(1) ให้จำคุกตลอดชีวิต คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้หนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ประกอบด้วยมาตรา 53คงจำคุก 33 ปี 4 เดือน ไม่ปรับบทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า "...คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนในการจำหน่ายเฮโรอีน ศาลฎีกาเห็นว่า แม้จำเลยจะมิได้ครอบครองเฮโรอีนของกลางร่วมกับนายศักดิ์ก็ตาม แต่การที่จำเลยเป็นผู้ติดต่อให้มีการขายเฮโรอีนของกลางโดยแบ่งผลประโยชน์กันกับนายศักดิ์ ถือได้ว่าเป็นการแบ่งหน้าที่กันทำระหว่างนายศักดิ์กับจำเลย เพื่อให้การจำหน่ายเฮโรอีนบรรลุผลสำเร็จขณะทำการจำหน่าย จำเลยก็อยู่ในที่เกิดเหตุโดยจำเลยกับนายศักดิ์นั่งอยู่บนรถของนายดาบตำรวจเจริญ เพื่อรับเงินค่าขายเฮโรอีนของกลาง และนายศักดิ์ได้แบ่งค่าขายเฮโรอีนของกลางให้จำเลยส่วนหนึ่ง ตามพฤติการณ์แสดงว่า จำเลยมีเจตนาร่วมกระทำผิดกับนายศักดิ์ในข้อหาจำหน่ายเฮโรอีน จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมจำหน่ายเฮโรอีนของกลางตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 หาใช่เป็นเพียงผู้ช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกอันจะมีความผิดเพียงฐานเป็นผู้สนับสนุนไม่..."
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น.