โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายทั้งสอง ฐานบุกรุก และฐานทำให้เสียทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๓๕๘, ๓๖๔,๓๖๕, ๙๑, ๓๓ ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๑๑ ลงวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๑๔ ข้อ ๒
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘, ๘๐ สองกระทง ตามมาตรา ๓๕๘ กระทงหนึ่ง และตามมาตรา ๓๖๕ อีกกระทงหนึ่ง เรียงกระทงลงโทษจำคุก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐ และมาตรา ๓๖๕ ลงโทษจำคุกตามมาตรา ๒๘๘, ๘๐ ซึ่งเป็นบทหนัก สองกระทง และผิดตามมาตรา ๓๕๘ อีกกระทงหนึ่ง ลงโทษจำคุก
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยมีสาเหตุโกรธเคืองผู้เสียหายที่ ๑ เมื่อพบผู้เสียหายที่ ๑ ก็พูดว่า มึงทำเพื่อนกูทำไม มึงตาย แล้วเข้ามาชกต่อย ผู้เสียหายที่ ๑ วิ่งหนี จำเลยกลับไปบ้านเอามีดปลายแหลมยาว ๘ นิ้ว กับขวดเบียร์ปลายแตกปากฉลามมา แล้วใช้มีดไล่แทงผู้เสียหายที่ ๑ หลายครั้ง ผู้เสียหายที่ ๑ ใช้เก้าอี้ยกขึ้นปิดป้อง จำเลยจึงกลับไปบ้านเอามีดปลายแหลมยาว ๑๕ นิ้ว กับขวดเบียร์ปลายแตกปากฉลามมาอีก ผู้เสียหายที่ ๑ วิ่งหนีเข้าบ้านผู้เสียหายที่ ๒ จำเลยใช้มีดฟันประตูกับฝาบ้านผู้เสียหาย ผู้เสียหายที่ ๒ พูดเกลี้ยกล่อมจำเลย และเมื่อผู้เสียหายทั้งสองลงมาจากบ้าน จำเลยก็ใช้มีดไล่ฟันและแทงอีกหลายครั้ง ผู้เสียหายทั้งสองใช้เก้าอี้ยกขึ้นปิดป้องมีดถูกผู้เสียหายที่ ๑ ที่ไหล่ซ้ายเป็นแผลยาว ๓ เซนติเมตร แล้วมีผู้มาช่วยกันจับจำเลยไว้ วินิจฉัยว่า การที่จำเลยพูดกับผู้เสียหายที่ ๑ ว่า มึงทำเพื่อนกูทำไม มึงตาย แล้วใช้มีดปลายแหลม (ยาว ๘ นิ้ว) ไล่แทงไปที่ลำตัวของผู้เสียหายที่ ๑ นานถึง๑๐ นาที เมื่อแทงไม่ถูกกลับไปเอามีดปลายแหลมยาว ๑๕ นิ้ว มาไล่ฟันและแทงผู้เสียหายทั้งสองอีก ๒๐ นาที จนกระทั่งถูกจับได้นั้น การกระทำของจำเลยดังกล่าวจึงมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายทั้งสอง
พิพากษายืน.