โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2518 ถึงวันที่ 24ตุลาคม 2527 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยได้บุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินลำห้วยสาธารณะ 'โสกผีตาย' ซึ่งเป็นที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับประชาชนใช้ร่วมกันเป็นเนื้อที่ 2 ไร่ 90 ตารางวาโดยจำเลยเข้าไปปิดกั้นถมทับและเข้าทำนา โดยจำเลยมิได้มีสิทธิครอบครองที่ดินโดยชอบและโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ เหตุเกิดตำบลห้วยยางอำเภอบัวใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดินมาตรา 9, 108 ทวิประกาศของคณะปฏิวัติที่ 96ข้อ 11 ให้จำเลยและบริวารออกจากที่ดินสาธารณประโยชน์ที่จำเลยบุกรุกเข้าไปดังกล่าว
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้องจำคุก 6 เดือน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าปัญหาตามฎีกาของจำเลยว่าฟ้องโจทก์สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158 หรือไม่เห็นว่าตามคำฟ้องที่โจทก์ได้บรรยายดังกล่าวข้างต้นย่อมเป็นการบรรยายฟ้องที่ทำให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดีแล้วว่าตามวันเวลาดังกล่าวนั้น จำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของรัฐอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน คือที่ดินลำห้วย 'โสกผีตาย' ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลห้วยยาง อำเภอบัวใหญ่จังหวัดนครราชสีมาฟ้องโจทก์จึงครบองค์ประกอบความผิดตามมาตรา 9, 108 ทวิและประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ข้อ 11แล้วหาจำต้องบรรยายว่า 'จำเลยเพิกเฉยมิได้ปฏิบัติให้ถูกระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่' ดังที่จำเลยฎีกาไม่ เพราะข้อเท็จจริงตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาได้ความว่าจำเลยบุกรุกเข้ายึดถือครอบครองที่ดินลำห้วยสาธารณะตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้อง ซึ่งเป็นวันเวลาภายหลังที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ใช้บังคับแล้ว
พิพากษายืน.