โจทก์ฟ้องว่า ลูกจ้างจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกไปในทางการที่จ้างโดยประมาทชนรถจักรยานยนต์ที่ ก. พนักงานของโจทก์ขับขี่สวนทางมา ก. ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่สามารถทำงานให้โจทก์ได้ตามปกติ ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลา 2 เดือนกับ 18 วัน โจทก์จ่ายเงินเดือนให้ ก. ระหว่างหยุดพักรักษาตัวเพราะเจ็บป่วยเป็นเงิน11,509.68 บาท ขอบังคับให้จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายจ้างและจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ร่วมกันใช้เงินค่าขาดประโยชน์แรงงานเท่าเงินเดือนเป็นเงิน11,509.68 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันละเมิด
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธความรับผิด
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2ยกฟ้อง
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายส่วนนี้จากจำเลยที่ 1พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 เสียด้วย
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อ ก. เป็นลูกจ้างของโจทก์ ก็มีความผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องทำการงานให้เป็นคุณแก่โจทก์ การที่ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 กระทำละเมิดต่อ ก. จนได้รับอันตรายบาดเจ็บไม่สามารถทำการงานให้แก่โจทก์ได้ตามปกติโจทก์ย่อมขาดแรงงานและมีสิทธิที่จะได้รับค่าสินค้าไหมทดแทนจากจำเลยที่ 1โดยคำนวณให้เท่ากับจำนวนเงินที่โจทก์ชำระให้แก่ ก. ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 445
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ 1 ชดใช้เงินค่าสินไหมทดแทนให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์